เดนทีน ชูนวัตกรรมใหม่ล่าสุด 'คริสตัลบีด’ เพื่อปากสะอาด สดชื่น มั่นใจทุกเมื่อเดินหน้าตอกย้ำแบรนด์ผู้นำอันดับหนึ่ง ปลุกตลาดหมากฝรั่ง พร้อมทุ่มงบบุกดิจิตอลและเอนเตอร์เทนเมนต์ เอาใจวัยรุ่น

นายฐานันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "การที่บริษัทมอนเดลีซฯ สามารถครองความเป็นผู้นำในตลาดหมากฝรั่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง สื่อถึงความสำเร็จจากความตั้งใจของบริษัทที่ต้องการส่งมอบผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ดีที่สุด ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ และด้วยการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ในปีนี้ เดนทีนจึงนำเสนอนวัตกรรมใหม่ล่าสุด 'คริสตัลบีด' เพื่อสร้างความตื่นเต้นแปลกใหม่ให้กับตลาดหมากฝรั่ง และขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น โดยมุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย"

ผลสำรวจดัชนีค้าปลีกของบริษัทวิจัยนีลเส็น (Nielsen Retail Audit) เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 ระบุว่า ตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทยมีมูลค่ารวม 2,579 ล้านบาท โดยมีมอนเดลีซเป็นผู้นำส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกว่าร้อยละ 68.5 เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากกว่าร้อยละ 9 นับตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2558 โดยเดนทีนครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่ง คิดเป็นร้อยละ 52.4 ของตลาดโดยรวม พร้อมด้วยคลอเร็ท ร้อยละ 9 และไทรเด้นท์ ร้อยละ 6 ทั้งนี้ ในภาพรวมของตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทย ประกอบด้วย หมากฝรั่งแบบมีน้ำตาลร้อยละ 70 และแบบปราศจากน้ำตาลร้อยละ 30

"นอกเหนือจากการเป็นผู้นำในตลาดหมากฝรั่งมาอย่างยาวนานกว่า 37 ปี เดนทีนยังเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งที่ผู้บริโภครู้จักและนึกถึงเป็นอันดับแรก จากผลสำรวจของบริษัท อิปซอสส์ ประเทศไทย จำกัด ผนวกกับรางวัล การันตีคุณภาพสุดยอดแบรนด์ จากซูเปอร์แบรนด์ ในปี พ.ศ. 2557 ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เดนทีนได้พัฒนาสินค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังสื่อสารแคมเปญไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับตั้งแต่ทำตลาดในประเทศไทยกว่า 37 ปี ที่ผ่านมา" นายฐานันท์ กล่าว

นางสาวปิยดา ธราธิป ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์หมากฝรั่ง บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำของตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทย เดนทีนยังมุ่งกระตุ้นตลาดหมากฝรั่งให้กลับมาคึกคัก มีสีสันอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว เดนทีน สูตรใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับนวัตกรรม"คริสตัลบีด" ให้ความรู้สึกปากสะอาด สดชื่นยิ่งขึ้น พร้อมความมั่นใจทุกครั้งที่เคี้ยว"พร้อมกันนี้ เดนทีน ได้กำหนดกลยุทธ์ทางการตลาด สำหรับการขับเคลื่อนกิจกรรมในทุกช่องทาง แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ดังนี้

1. กลยุทธ์การสร้างพฤติกรรมการเคี้ยวหมากฝรั่งหลังอาหาร: ต่อยอดกลยุทธ์การจับคู่เดนทีนกับมื้ออาหารจากปีที่ผ่านมา เพื่อตอกย้ำถึงคุณสมบัติของหมากฝรั่งกับความสะอาด สดชื่น มั่นใจทุกเมื่อ โดยสื่อสารผ่านทางแคมเปญการสื่อสารทุกช่องทางของเดนทีน

2.กลยุทธ์การสร้างความตื่นเต้นและแปลกใหม่ให้กับตลาดหมากฝรั่ง: ด้วย 'คริสตัลบีด' นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ครั้งแรกของเดนทีน ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่น มั่นใจ เหนือระดับ อีกทั้งยังปรับโฉมดีไซน์บนบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัย โดดเด่นสะดุดตาบนชั้นวางสินค้า สื่อถึงความสะอาด สดชื่น ได้เป็นอย่างดี

3.กลยุทธ์การขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังคนรุ่นใหม่: สร้างการรับรู้ผ่านช่องทางการสื่อสารแบบบูรณาการ ภายใต้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ทั้งโฆษณาโทรทัศน์ ที่สามารถสะท้อนถึงจุดขายอย่างชัดเจน และมีเอกลักษณ์ พร้อมชูแบรนด์แอมบาสเดอร์ขวัญใจวัยทีน ต่อ-ธนภพ และเก้า-สุภัสสรา ที่คงกระแสแรงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ ยังให้ความสำคัญช่องทางดิจิตอลและเอนเตอร์เทนเมนท์ เจาะกลุ่มวัยรุ่นโดยตรง ผ่านสื่อออนไลน์และทีวีออนไลน์ เดินหน้ากระตุ้นยอดขายผ่านโปรโมชั่นแบบเรียลไทม์ โดยสนับสนุน ทีวีซีรีส์ "โอเนกาทีฟ รักออกแบบไม่ได้" ซึ่งออกอากาศผ่านทางช่อง GMM Channel 25, YouTube และ LINETV นอกจากนี้ยังปูพรมสื่อโฆษณานอกบ้าน ครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างการรับรู้ทุกพื้นที่ในประเทศไทย

4.กลยุทธ์การส่งเสริมการขายแบบเต็มสูบ: ด้วย เดนทีน คาราวาน แจกตัวอย่างผลิตภัณฑ์กว่า 1.5 ล้านชิ้น โดยเข้าถึงแหล่งชุมชนต่าง ๆ รวมถึงมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ พร้อมเติมเต็มช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้ผู้บริโภคสังเกตเห็นแบรนด์เดนทีนได้ง่าย อีกทั้งยังเพิ่มโปรโมชั่น ณ จุดขาย และโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าต่างๆ อีกมากมาย

"เราเชื่อมั่นว่า หมากฝรั่ง เดนทีน สูตรใหม่ ที่มาพร้อมกับ 'คริสตัลบีด' พร้อมด้วยแคมเปญการตลาดแบบครบวงจรในปี 2559 นี้ จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทย พร้อมสร้างการเติบโตให้กับเดนทีนเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ ตอกย้ำความสำเร็จของเดนทีน ในฐานะผู้นำตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง" นายฐานันท์ กล่าวสรุป

พบกับผลิตภัณฑ์เดนทีน สูตรใหม่ ที่มีคริสตัลบีด ทั้ง 6 รสชาติ ได้แก่ สเปียร์มินต์, เมนโทลิบตัส,เฟรชมินต์, บลูเบอร์รี, เมลอน และเรดแอปเปิ้ลมินต์ ในรูปแบบ แผ่น 2 บาท แท่ง 5 บาท และกล่อง 12 บาท ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป ณ ร้านสะดวกซื้อ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมรับโปรโมชั่นสุดพิเศษอีกมากมาย