ดิทแฮล์ม ทราเวิล จับมือ บร๊คเคอร์ กรุ๊ปประการศเปิดตัวโครงการสำรวจลุ่มน้ำโขงแบบครบวงจรเปิดรับนักท่องเที่ยวและองค์กรที่สนใจเข้าร่วมโครงการ

06 Aug 2002

กรุงเทพฯ--6 ส.ค.--Joel Publicity

บริษัทดิทแฮล์ม ทราเวิล ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพร้อมด้วยบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป บริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจชั้นนำของไทยร่วมกันพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับลุ่มน้ำโขงด้วยการประกาศเปิดตัวโครงการล่องเรือสำรวจแบบครบวงจรเจาะลึกเส้น ทางเดินเรือของแม่น้ำสายหลักแห่งภูมิภาคนี้อย่างครบถ้วน โดยโครงการลักษณะดังกล่าวเพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและจะเริ่มปฏิบัติการในเดือนพฤศจิกายน 2545

การสำรวจที่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตนี้จะนำข้าราชการจากประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) พร้อมด้วยนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยจำนวนหนึ่งล่องเรือสำรวจตามเส้นทางที่ยาวถึง 2,900 กิโลเมตร เป็นเวลานาน 17 วัน โดยจะเริ่มต้นจากมณฑลยูนนานในประเทศจีนไปยังเมืองโฮจิมินห์ของประเทศเวียดนาม โดยจะจอดแวะพักตามสถานที่สำคัญๆหลายแห่งระหว่างการเดินทางผ่านประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงซึ่งได้แก่จีน พม่า ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนาม

กำหนดการสำหรับการเดินทางล่องแม่น้ำลงทางทิศใต้จะเริ่มจั้งต้นจากเมืองไซเหมาของมณฑลยูนนานในวันที่ 3 พฤศจิกายนและจะเดินทางถึงเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนามในวันที่ 17 พฤศจิกายน ส่วนการเดินทางกลับจะเป็นการล่องเรือทวนลำน้ำกับผู้โดยสารกลุ่มที่สอง โดยจะเริ่มออกเดินทางจากเมืองโฮจิมินห์ในวันที่ 21 พฤศจิกายนและจะเข้าเทียบท่าที่เมือง จิงฮองของมณฑลยูนนานในวันที่ 4 ธันวาคม

แม้การล่องเรือตามส่วนต่างๆของแม่น้ำโขงจะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนท้องถิ่น แต่โครงการสำรวจลุ่มน้ำโขง ปี 2002 หรือ Expedition Mekong 2002 จะเปิดโอกาสให้นักเดินทางได้สัมผัสกับทุกแง่มุมในการเดินเรือตลอดเส้นทางในแม่น้ำที่สำคัญในประวัติศาสตร์แห่งนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏในการเดินทางเที่ยวไหนมาก่อน ตลอดการเดินทางอันน่าอัศจรรย์ใจครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้ค้นพบความลับมากมายที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้สายน้ำอันแสนสงบของลุ่มน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงผู้คนนับล้านชีวิตแห่งนี้ รวมถึงจะได้เยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามแห่งลุ่มน้ำโขงมากมาย อาทิ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่มีเสน่ห์ตรึงใจ ความเร้นลับของเมืองหลวงพระบางอัน ทิวทัศน์ที่สวยงามของน้ำตกโคนพะเพง และนครวัดที่เปี่ยมไปด้วยมนต์ขลัง

ด้วยความเชี่ยวชาญและความสามารถพิเศษของบริษัทชั้นนำทั้งสองที่ประสานเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้โครงการดังกล่าวบวกกับความรู้จริงในภูมิภาคที่น่าพิศวงและหลากหลายนี้ พันธมิตรทั้งสองจึงได้เล็งเห็นถึงโอกาสแห่งความสำเร็จที่กำลังเฝ้ารอคอยการค้นพบอยู่

จากประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนานกว่า 19 ปีในภูมิภาคนี้ คุณอาร์มิน ชอค ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทดีทแฮล์ม ทราเวิล กรุ๊ปได้เล็งเห็นถึงข้อดีหลายประการที่เป็นผลพวงจากธุรกิจท่องเที่ยวและหวังว่า “ผู้ที่กำลังมองหาความตื่นเต้นให้กับชีวิตรวมถึงองค์กรต่างๆจะให้ความสนใจเข้าร่วมการเดินทางบุกเบิกในครั้งนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากคนในทุกสาขาอาชีพนอกเหนือจากคนในแวดวงอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เนื่องจากการเดินทางของเราจะเผยให้เห็นถึงโอกาสทางทำธุรกิจที่แฝงตัวอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขงด้วย”

ดร. พีเทอร์ บริมเบิล ประธานกรรมการบริหารของบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปชี้แจงเพิ่มเติมว่าจุดประสงค์หลักของการเดินทางครั้งนี้คือการแสดงให้ประเทศแถบภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเห็นว่าแท้จริงแล้วแม่น้ำสายนี้คือสะพานที่คอยอำนวยความสะดวกในการลำเลียงทั้งผู้คนและสินค้าระหว่างกันแทนที่จะเป็นอุปสรรคดังเช่นอดีต “เป้าหมายของโครงการสำรวจลุ่มน้ำแม่โขงปี 2002 ไม่ใช่การมุ่งหาประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้หรือจากพื้นที่ต่างๆตลอดลุ่มน้ำ แต่การสำรวจของเราจะให้ความสำคัญกับการค้นหาความงามที่ซ่อนอยู่ภายในแม่น้ำสายนี้เป็นหลัก แสดงให้เป็นถึงความหลากหลายของผู้คน สภาพภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมในแต่ละท้องที่ นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาให้แม่น้ำโขงสายนี้เป็นสัญลักษณ์ของเอกภาพ สันติภาพ และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกันของประเทศต่างๆที่แม่น้ำสายนี้ไหลผ่านด้วย”

ทั้งนี้ แม้แม่น้ำโขงจะมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะดินแดนที่มีความสวยงามตามธรรมชาติมากมายรวมถึงมีขนบประเพณีและตำนานท้องถิ่นที่น่าประทับใจ แต่ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำซึ่งห่างไกลจากตัวเมืองกลับยังคงยากจนอยู่มาก ดังนั้น ตัวแทนจากประเทศต่างๆที่เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานการท่องเที่ยวภูมิภาคลุ่มน้ำแม่โขงครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นที่กรุงเวียงจันทน์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2542 จึงได้ตัดสินใจก่อตั้งโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวในบริเวณแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขงขึ้น โดยมุ่งส่งเสริมให้กลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงทั้ง 6 ร่วมทำการศึกษาโครงการวางแผนและริเริ่มการพัฒนาการท่องเที่ยวตามเส้นทางแม่น้ำโขง

ดังนั้น โครงการสำรวจลุ่มน้ำแม่โขงปี 2002 จึงมีความสำคัญทั้งในฐานะของโครงการสำรวจที่จะประทับอยู่ในความทรงจำของผู้ร่วมเดินทางและผู้สนับสนุนโครงการอย่างไม่รู้ลืม และยังมีความสำคัญในฐานะโครงการนำร่องด้านการท่องเที่ยวสำหรับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงด้วย โดยจะมีส่วนช่วยในการสร้างชื่อเสียงให้กับการท่องเที่ยวและการล่องเรือในบริเวณนี้เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์จากการท่องเที่ยวทางน้ำแนวใหม่อย่างเป็นรูปธรรมและทำให้ชาวโลกรู้จักอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมากยิ่งขึ้น

“เราหวังว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวรูปแบบอื่นโดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย อาทิ การเล่นเรือคยักและการล่องแพ ซึ่งในปัจจุบัน การล่องแพจะทำกันภายในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อเราแสดงให้เห็นว่าการเดินทางทางแม่น้ำโขงข้ามประเทศต่างๆ นั้นเป็นไปได้ การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยระหว่างประเทศก็อาจเกิดขึ้นมาได้ตลอดประเทศต่างๆตามแม่น้ำโขง” คุณชอค อธิบาย

เขากล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางด้านการเมืองนั้น ขั้นตอนต่างๆ กำลังดำเนินไปตามแนวทางที่ถูกต้องเพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามข้อตกลง Commercial Water Navigation สำหรับแม่น้ำโขงตอนบนซึ่งได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว และเป้าหมายของเราในตอนนี้ก็คือการมุ่งมั่นสร้างตำนานครั้งประวัติศาสตร์เพื่อทำแนวคิดริเริ่มทางการทูตนี้ให้เกิดผลสำเร็จ”

หลังจากการดำเนินงานมาเป็นแรมปี ดิทแฮล์มและบรุ๊คเคอร์ได้รับอนุญาติอย่างถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับต่างๆของรัฐบาลในประเทศสมาชิกภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแล้วและได้เริ่มทำการคัดเลือกตัวแทนเพื่อประสานงานกิจกรรมท่องเที่ยวแห่งลุ่มน้ำโขง หรือ AMTA (Agency for Coordinating Mekong Tourism Activities) แล้วเช่นกัน

ดังนั้น ขั้นตอนที่เหลือในขณะนี้ก็คือการรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการและองค์กรที่ต้องการสนับสนุนและเป็นส่วนหนึ่งของการผจัญภัยครั้งประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทั้งนี้ ภาพการเดินทางทั้งหมดจะได้รับการบันทึกไว้โดยนายเบน เดวี่ส์ ช่างภาพชั้นนำระดับโลก เพื่อนำมาจัดทำหนังสือรวมเล่มภายใต้ชื่อว่า “Taming the Mekong : A Voyage Through the Heart of Asia ” และจะได้นำจัดจำหน่ายต่อไป

คุณเดวิด โอลด์ฟิลด์ ประธานอาวุโสของบรุ๊คเคอร์ กรุ๊ปชี้แจงเพิ่มเติมว่า “เนื่องจากโครงการนี้ไม่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากรัฐบาลหรือหน่วยงานใดๆทั้งสิ้น เราจึงหวังว่านักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยและองค์กรธุรกิจทั้งหลายจะให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวด้วยวิธีหนึ่งวิธีใดดังต่อไปนี้ อันได้แก่การส่งตัวแทนมาร่วมเดินทางกับเรา การให้ความสนับสนุนในฐานะสปอนเซอร์ หรืออาจสั่งซื้อหนังสือรวมภาพเพื่อใช้เป็นของขวัญของบริษัทก็ได้”

โครงการสำรวจลุ่มน้ำโขงครั้งนี้จะใช้เรือ Hovercraft เพียงลำเดียวเท่านั้น โดยเรือดังกล่าวสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยอัตราเร็วประมาณ 40 – 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 24 คน ไม่รวมกัปตันเรือสองคน ช่างเครื่องหนึ่งคนและผู้ช่วยอีกหนึ่งคน

รายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับประสบการณ์ครั้งพิเศษในชีวิตของผู้ที่รักการผจญภัยมีดังต่อไปนี้ – สำหรับการล่องเรือตามกระแสน้ำ (ระยะเวลา 17 วัน โดยใช้เวลาล่องเรือตามลำน้ำนาน 15 วัน) : ราคา 7,700 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการล่องเรือทวนกระแสน้ำ (ระยะเวลา 15 วัน โดยใช้เวลาล่องเรือตามลำน้ำนาน 14 วัน) : ราคา 7,400 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าโดยสารทางอากาศ

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทางและการเข้าร่วมสนับสนุนโครงการได้ที่

http://www.expedition-mekong.com

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:

ดร. พีเทอร์ บริมเบิล

กรรมการผู้อำนวยการ

Tel.: (66)(0) 2267-9222

[email protected]

ดร. เดวิด โอลด์ฟิลด์

ประธานอาวุโส แผนกวิจัยนโยบาย

Tel.: (66)(0) 2267-9222

[email protected]

นายอาร์มิน ชอค

ผู้จัดการทั่วไป บริษัทดิทแฮล์ม ทราเวิล กรุ๊ป

Tel.: (66)(0) 2255-9150-70

[email protected]

หรือติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์:

คุณคะรินยา บูรณะภิรมย์

โทร

:

0 – 2236 4984 – 5

แฟกซ์

:

0 – 2238 4971

โทรศัพท์เคลื่อนที่

:

01 – 424 2215--จบ--

-ศน-

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit