การกลับมาของดิเอกซ์แฟกเตอร์

30 Aug 2016

นอกจากนี้ ในส่วนของตัวรายการจะมีการนำเสนอฉากที่ผู้ชมชื่นชอบ นั่นคือ "รูมออดิชั่นส์" หรือการคัดเลือกตัวในห้อง ผู้เข้าแข่งขันจะได้แสดงความสามารถต่อหน้าคณะกรรมการอย่างใกล้ชิดภายใต้บรรยากาศที่เป็นกันเอง

การกลับมาของดิเอกซ์แฟกเตอร์

หากผู้เข้าแข่งขันสร้างความประทับใจให้แก่กรรมการในห้องออดิชัน พวกเขาจะได้ไปต่อในรอบบู๊ทแคมป์ และแน่นอนต้องแสดงให้กรรมการชมอีกครั้งเป็นกลุ่ม โดยมาพร้อมกับสเต็ปการเต้น และการแสดงที่สุดอลัง

หลังจากที่เลือกผู้เข้ารอบได้แล้ว กรรมการแต่ละคนจะได้รับการจัดสรรให้เป็นพี่เลี้ยงของหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งของผู้เข้าแข่งขัน โดยในซีซั่นนี้ยังคงมีรอบซิกแชร์ชาเลนจ์ (Six Chair Challenge) หรือศึกชิงที่นั่ง 6 ที่ ซึ่งผู้เข้าแข่งขันแต่ละคน/ทีมจะต้องแข่งขันกันเองในหมวดหมู่ที่ตนอยู่ นับเป็นครั้งแรกของผู้เข้าแข่งขันที่ได้แสดงสดต่อหน้าผู้ชมนับพัน พร้อมให้กรรมการเลือกให้เข้ารอบและได้สิทธิ์ขึ้นไปนั่งเก้าอี้ 1 ใน 6 ตัวบนเวที

การแข่งขันจะเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ผู้เข้ารอบสุดท้ายได้ผ่านการคัดเลือกมาจากรอบ Judges' House ในรอบนี้ผู้ชมจะได้ชมผู้เข้าแข่งขันที่มีความสามารถ โดยมาพร้อมกับเสียงร้องที่ยอดเยี่ยมและการแสดงที่หวือหวาน่าประทับใจ ในการช่วงชิงตำแหน่งผู้ชนะเลิศการแข่งขันในรายการดิเอ็กซ์แฟกเตอร์ปี 2559 พร้อมโอกาสในชีวิตที่จะได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงดัง

ศิลปินที่ผ่านเวทีรายการดิเอกซ์แฟกเตอร์ สหราชอาณาจักร สามารถขายผลงานได้มากกว่า 200 ล้านแผ่นทั่วโลก รวมทั้งติดอันดับ 1 ในชาร์ต 200 อันดับแรก ส่งผลให้รายการดิเอกซ์แฟกเตอร์ สหราชอาณาจักร เป็นรายการที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์กับบทบาทในการสร้างซูเปอร์สตาร์ระดับติดชาร์ต ซึ่งได้แก่ ศิลปินวงวันไดเรกชัน ที่สามารถขายผลงานเพลงได้มากถึง 70 ล้านแผ่นทั่วโลก หรือออลลี เมอร์ส ศิลปินที่ประสบความสำเร็จจากทั้ง 4 มัลติแพลทินัมอัลบั้ม หรืออัลบั้มที่ขายได้เกิน 2 ล้านแผ่น โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้าน รวมถึงลิตเทิลมิกซ์ ซึ่งมียอดขายรวม 15 ล้านแผ่นทั่วโลกบทสัมภาษณ์ไซมอน โคเวลล์คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับคณะกรรมการในซีซั่นนี้หลังจากที่ผ่านการออดิชันไปแล้ว

ผมกับหลุยส์รู้จักกันมานานแล้ว ถ้าให้พูดถึงออดิชัน ผมว่ามันยาวนานทีเดียว แต่ผมก็ทำให้การออดิชันมันสนุก ส่วนเรื่องคณะกรรมการผมว่ามันก็คล้ายกับการฉลองเลี้ยงรุ่น พวกเขาทำงานกันอย่างเต็มศักยภาพ ผมกับชารอนเปรียบเหมือนกับทอมแอนด์เจอรี่ แต่เราก็รักและสนิทกันมาก ส่วนนิโคลเองก็สุดเหวี่ยง ผมชอบสไตล์เธอ ส่วนปีนี้เราได้เดอร์มอท โอแลรีย์ กลับมาดำเนินรายการ ผมคิดถึงเขามากๆปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง

ข้อดีของการสร้างทวิตเตอร์ของรายการคือการที่คนดูสามารถแสดงความคิดเห็นของเขา สามารถบอกให้เรารู้ว่าเขาคิดเห็นอย่างไร ก็คล้ายๆ กับเหมือนมีพ่อแม่มาคอยบอกเราว่า "ไซม่อน เธอพลาดละ" ผมไม่ทราบมาก่อนว่าแฟนๆ จะคิดถึงกรรมการทุกคน การเลือกคณะกรรมการในซีซั่นนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ง่ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ไม่มีการตั้งสมมติฐานหรือความน่าจะเป็น มันเป็นการระบุชัดลงไปเลยว่าใครคือคณะกรรมการในปีนี้รู้สึกอย่างไรที่ได้หลุยส์กลับมาเป็นกรรมการ

รู้สึกอย่างไรน่ะหรือครับ ผมมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งนะคือว่าหลายปีก่อนเพื่อนของผมคนหนึ่งย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย เขาต้องย้ายสุนัขของเขาให้ไปอยู่กับคนอื่น หนึ่งปีผ่านไปเพื่อนผมคนนั้นก็กลับมา เขาและสุนัขของเขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เรื่องนี้ก็คล้ายๆ กับการกลับมาเจอกันอีกครั้งระหว่างผมกับหลุยส์ เราคิดกันและกัน นี่ถ้าหลุยส์มีหาง ผมว่าเขาก็คงแกว่งหางไปมาหลุยส์กล้าเปิดเผยความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับซีซั่นที่แล้ว

เขาชอบมัน! ที่ตลกก็คือเขาโทรหาผมทุกสัปดาห์เลย คุยในสายกับผมเป็นชั่วโมงและก็ตะโกนว่าผมผ่านทางโทรศัพท์ ผมก็บอกกับเขาว่า "หยุดดูซะ ผมช่วยไม่ได้ ถ้าคุณไม่ชอบมันก็ไม่ใช่ความผิดของผม" ผมสาบานได้เลย เขาโทรหาผมทุกอาทิตย์ ตอนประมาณตี 2 ผมจะรู้เลยว่า "หลุยส์โทรมาอีกละ" ผมก็จะเปิดลำโพง นอนราบและก็ฟังหลุยส์พูด หลุยส์รักโชว์นี้ เขาคิดถึงซีซั่นเก่าๆ ผมรู้สึกได้เลย นี่แหละหลุยส์ที่ผมรู้จักในฐานะผู้จัดการ เขาเป็นคนเปิดเผย พูดเก่ง และช่างวิจารณ์ นี่แหละคือสิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับตัวเขาคุณกับชารอนเคยผ่านช่วงเวลาแบบทั้งรักทั้งชังกันมาก่อน ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับชารอนเป็นอย่างไร

ตอนนี้เรารักกัน ผมคิดถึงชารอนเสมอ ผมเห็นอิทธิพลของตัวเธอที่มีต่อผู้เข้าแข่งขันเวลาที่พวกเขาเดินเข้ามาในหอประชุม พวกเขารักเธอ ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ชารอนมีความเป็นเอกลักษณ์ เธอหนักแน่นในความคิด เธอมีอารมณ์ขันแบบแปลกๆ ไม่มีใครทำให้เธอหันเหได้ถ้าเธอเชื่อมั่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เวลาที่เธอชอบใครแล้ว เธอจะชอบและชื่นชมมาก และนั้นก็คือหัวใจสำคัญของรายการเหนื่อยไหมกว่าที่ชารอนจะตัดสินใจกลับมาในรายการอีกครั้ง

ไม่เลย จริงๆ แล้วถือว่าเป็นการตัดสินใจที่เร็วมาก ปกติแล้วจะต้องนานกว่านี้ พวกผม (โปรดิวเซอร์) นั่งอยู่ในห้องด้วยกันในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และผมก็ถามทุกคนว่า "คุณต้องการอะไร" ที่น่าขันก็คือทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "นี่คือมติของคณะ เราอยากให้เดอร์มอทกลับมา" ไม่มีใครคัดค้านเลย เราตัดสินใจเร็วมาก แล้วก็เดินหน้าต่อคณะกรรมการทั้ง 3 คนท้าทายคุณมากกว่ากรรมการชุดอื่นๆ ที่ผ่านมาหรือไม่

พวกเขาทำให้ผมต้องทำงานหนัก ผมคิดว่าบางทีคนที่พวกเขาเลือกให้เข้ารอบนั้นทำให้ผมต้องตกอยู่ในภาวะที่เครียดนะ แต่ผมก็ชินแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ผมพอใจมากกับคนที่ชนะ เพราะเราไม่รู้มาก่อนเลยในช่วงออดิชัน คุณเอานิโคลไปเปรียบเทียบกับรายการแอนทีค โรดโชว์ (Antiques Roadshow) คุณต้องการสื่ออะไร

เวลาที่ผมดูรายการแอนทีค โรดโชว์ ผมจะขำเวลาที่เห็นคนนั่งอยู่กับของเก่าแล้วก็คอยสนใจแต่ว่าของชิ้นนั้นมีมูลค่าเท่าไร แล้วก็จะได้ฟังผู้เชี่ยวชาญมาพูดถึงประวัติของๆ ชิ้นนั้น ผมรู้นะว่าพวกเขาไม่ต้องการฟังประวัติของสิ่งของ เขาแค่อยากรู้ว่ามันมีมูลค่าเท่าไร นิโคลเหมือนพวกผู้เชี่ยวชาญในรายการนั้นเลย คือก่อนที่เธอจะให้ใครผ่านหรือไม่ผ่าน เธอจะวิจารณ์และให้คำแนะนำสารพัด ซึ่ง ณ จุดนี้ ผู้เข้าแข่งขันคิดแต่เพียงว่า "ให้ฉันผ่านนะ ให้ผมผ่านนะ"แต่ดูเหมือนเธอจะไม่รู้ตัวคุณภูมิใจหรือไม่ที่ใครๆ ทั้งประเทศก็พูดถึงแต่รายการดิเอ็กซ์แฟกเตอร์มากกว่ารายการอื่นๆ

ใช่ครับ คือคนคาดเดากันว่ารายการอาจยุติการออกอากาศ ซึ่งจริงๆ แล้วเราไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย ไม่เคยอยู่ในความคิดเราเลย เพราะว่ารายการก็ออกอากาศมาเกือบ 5 เดือนแล้ว และก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีตลอดมา มันคือรายการที่คนดูมีส่วนร่วมมาก พวกเขาอาจจะชอบหรือเกลียดรายการ แต่พวกเขาก็ยังพูดถึงรายการ แต่ถ้าไม่มีคนพูดถึงเลย รายการก็อยู่ไม่รอด ซึ่งนี่คือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ สิ่งที่ผมชอบมากในโลกปัจจุบันก็คือเวลาที่คนพูดถึงเรา เราสามารถเรียนรู้ประชามติผ่านทางออนไลน์ และทราบว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันผิดหรือถูกรู้สึกอย่างไรที่ได้เดอร์มอทกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

เขาบินมาหาผมที่แอลเอเมื่อประมาณสามเดือนก่อน หลังจากที่ผมไม่ได้เจอเขามาสักพัก ผมดีใจที่ได้เจอเขา ตอนแรกผมนึกว่าเขาอาจจะรู้สึกแปลกๆ ที่จะมาคุยกับผม แต่ผมก็พูดว่า "ไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้รู้สึกแปลกๆ จริงๆ แล้วผมควรโทรหาคุณ หรือคุณควรโทรหาผม ทุกๆ คนคิดถึงคุณ ฉะนั้น กลับมาเถอะนะ" ผมพูดแค่นั้น ซึ่งผมว่าดีนะ ผมคิดว่าออลลีกับแคโรไลน์ทำงานได้เยี่ยมมาก แต่คนดูจะติดภาพของเดอร์มอทกับรายการนี้ ซึ่งตอนนี้เขากลับมาแล้ว ผมได้ดูในคลิปแล้ว และผมก็คิดว่า "พระเจ้า เขาเยี่ยมมาก"คือคุณเสียใจที่เขาหายไปปีที่แล้วใช่ไหม

ไม่ครับ ผมไม่เสียใจในสิ่งตัดสินใจทำไปแล้ว เพราะเราต้องปรับเปลี่ยนบ้างในบางโอกาสเพื่อศึกษาว่าสิ่งๆ นั้นมันลงตัวหรือไม่ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย หนึ่งในนั้นคือการที่คุณกลับไปในห้องออดิชั่น

ส่วนตัวแล้วผมว่ามันเหมือนฝันร้าย ผมรู้สึกอึดอัด และก็แปลกๆ ผมมีปัญหากับห้องออดิชันนะ อีกอย่างก็คือผู้เข้าแข่งขันอบยู่ห่างจากจากเราแค่ 5 ฟุตเท่านั้น แต่ถ้าเวลาอยู่ในอารีน่า มันรู้สึกง่ายกว่าเยอะ เรามีผู้ชมอยู่ด้านหลัง อย่างในห้องนี้เวลาที่ผู้เข้าแข่งขันแสดงได้แย่มาก เราต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่าใกล้ชิด ผมรู้สึกว่ามันอึดอัดมาก แต่ผมเข้าใจว่าทำไมคนดูถึงชอบรอบนี้ เพราะจะเห็นการพัฒนาของศิลปิน ซึ่งต้องเริ่มจากบรรยากาศสบายๆ เวทีเล็กๆ ไปสู่เวทีใหญ่คุณคิดว่าความสามารถของผู้เข้าแข่งขันปีนี้เป็นอย่างไร

ผมมีความเชื่อเสมอว่าประเทศเรามีคนที่มีสามารถ และวันที่ผมหมดความเชื่อคือวันที่ผมหยุดทำรายการ เราไม่จำเป็นต้องค้นพบศิลปินจำนวนมาก แค่เพียงหนึ่งก็ดีแล้ว ปกติเราเราเจอคนที่มีความสามารถมากล้น แต่ก็ไม่ได้นำออกมาใช้ ดังนั้น หน้าที่ของเราคือต้องมองหาความสามารถนั้นๆ ให้เจอ โชคดีก็คือในหลายๆ ปีที่ผ่านมาเราสามารถค้นเจอความสามารถในตัวพวกเขาคุณกระตุ้นให้นิโคลร้องเพลงในช่วงออดิชั่นใช่ไหม

จริงๆ ไม่ต้องหว่านล้อมหรือกระตุ้นอะไรมากเลยที่จะขอให้นิโคลร้องเพลง Memories ก็แค่ถามว่า คุณจะร้องไหม แล้วเธอก็ตอบตกลงทันที คุณทราบหรือไม่ว่านิโคลเป็นนักเลียนแบบที่สุดยอดมาก ผมเพิ่งรู้ว่าเธอเลียนแบบบริทนีย์ได้เก่งที่สุด เธอเป็นคนตลกและก็ชอบพิสูจน์ให้เห็นว่าตัวเองเป็นนักร้อง ซึ่งนั่นทำให้ผมขำมาก

การกลับมาของดิเอกซ์แฟกเตอร์
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit