FAM Trip เส้นทางชนบทที่รัก ในครั้งนี้ จัดขึ้นที่ชุมชนลีเล็ด จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นซึ่งผูกพันอยู่กับระบบนิเวศ จับปู ปลา หาหอย ลิ้มรสอาหารพื้นเมือง ทำขนมจาก สานตะกร้า ทำกะปิจากกุ้งหัวมันที่เลื่องชื่อ กลางวันล่องเรือชมป่าชายเลน ดูนกทะเลหลากหลายสายพันธุ์ กลางคืนชมหิ่งห้อยนับล้านตัว ฯลฯ
นอกเหนือไปจากการสัมผัสเสน่ห์ชุมชนลีเล็ดเพื่อเรียกน้ำย่อยกันไปแล้ว ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังมี 16 ชุมชนท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีศักยภาพ ความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวรุ่นใหญ่ วัย 50+ ทั้งในเรื่องของที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวก อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ มานำเสนอด้วยเช่นกัน ครบทั้ง 5 ภาค ตามรายชื่อดังนี้
ภาคกลาง
กลุ่มวิสาหกิจวนเกษตรดงเย็น จังหวัดสุพรรณบุรี
ชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จังหวัดสมุทรสงคราม
ชุมชนแหลมผักเบี้ย (บ้านดอนใน) จังหวัดเพชรบุรี
ภาคตะวันออก
ชุมชนตะเคียนเตี้ย จังหวัดชลบุรี
ชุมชนท่องเที่ยวบ้านทะเลน้อย ระยองฮิ จังหวัดระยอง
ชุมชนประแสโฮมสเตย์ จังหวัดระยอง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชุมชนบ้านโคกเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี
ภาคเหนือ
ชุมชนโฮมสเตย์บ้านท่าขันทอง จังหวัดเชียงราย
ชุมชนปางห้าโฮมสเตย์ จังหวัดเชียงราย
ชุมชนศิลาเพชรโฮมสเตย์ จังหวัดน่าน
ชุมชนไตลื้อเมืองลวงเหนือ จังหวัดเชียงใหม่
ภาคใต้
วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทุ่งหยีเพ็ง จังหวัดกระบี่
วิสาหกิจกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านแหลม จังหวัดนครศรีธรรมราช
ชุมชนลีเล็ดนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
วิสาหกิจชุมชนโฮมสเตย์เพื่อการท่องเที่ยวชุมชนตะโหมด จังหวัดพัทลุง
นางสาวอัจฉราพร พงษ์ฉวี รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า “สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเรามีการทำมานานแล้ว พอมาถึงปีนี้เราก็คัดเลือกชุมชนที่มีศักยภาพ คัดเลือกขึ้นมา 16 ชุมชน ที่จะพัฒนาต่อ ซึ่งการท่องเที่ยวเรามีหลายระดับ ปีนี้เราก็มาเน้นเป็นกลุ่ม Silver Age เป็นกลุ่มที่มีกำลังในการท่องเที่ยว โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ร่วมกับโครงการ Thailand Village Academy Season 2 ได้คัดเลือกแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมในชุมชนมาออกแบบสร้างสรรค์ใหม่ให้ตอบโจทย์ความสนใจของกลุ่ม Silver Age สิ่งหนึ่งที่เรากำลังนำเสนอก็คือ มรดกทางปัญญาที่จับต้องไม่ได้ อย่างเช่นที่เราลงไปที่แหล่งท่องเที่ยว ชุมชนลีเล็ด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครั้งนี้ที่เราไปดูการทำ “กะปิ” ซึ่งกะปิเราได้ขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจังหวัด ซึ่งตรงนี้ได้ประโยชน์ถึงสองเรื่องคือ เรื่องเศรษฐกิจชุมชนที่ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวที่ได้เรียนรู้ในภูมิปัญญาเป็นวัฒนธรรมของคนไทยในพื้นที่นั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งการจัด FAM TRIP ครั้งนี้เป็นการสรุปบทเรียนในการทำงานทั้งหมด เป็นการปรับปรุงโปรแกรมแหล่งท่องเที่ยว เราพบว่าการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเหมาะกับกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัยที่มีความพร้อมที่ชอบท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ก็เลยเกิดโปรแกรมปีที่สองขึ้นมา ซึ่งร่วมกับ ททท.ด้วย”
นายนพดล ภาคพรต รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “แคมเปญ “ชนบทที่รัก” ทำขึ้นเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวชุมชนให้กับกลุ่ม “Silver Age” เป็นการขยายผลเพื่อต่อยอดการท่องเที่ยวชุมชน สำหรับกลุ่ม “Silver Age” ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติออกเดินทางท่องเที่ยวชุมชนกันมากยิ่งขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยให้ชุมชนมีรายได้ต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งชุมชนลีเล็ด จังหวัดสุราษฎร์ธานี และอีก 15 ชุมชนก็พร้อม แล้วที่จะต้อนรับชาว “Silver Age” ทุกท่าน ให้มาสัมผัสความเป็น “ชนบทที่รัก” ในเมืองไทยของเรา อยากจะบอกว่าความเป็นชุมชนในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน อย่างกะปิลีเล็ด กับกะปิทะเลน้อย ก็ไม่เหมือนกัน รสชาติต่างกัน เรื่องราวต่างกัน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความแตกต่าง ความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครของแต่ละชุมชน แต่ละภูมิภาค รับรองว่าแต่ละที่มีทีเด็ดแตกต่างกันแน่นอนครับ”
นางสาวนิตินุช นุชนาคา Founder บริษัท อาเดลี จำกัด บริษัทนำเที่ยวของการเดินทางเพื่อคนวัยเก๋า กล่าวว่า“การท่องเที่ยวชุมชนมีเสน่ห์สำหรับนักท่องเที่ยวทุกวัยอยู่แล้วค่ะ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงวัยด้วยแล้ว การท่องเที่ยวชุมชนดูจะเป็นเสน่ห์ดึงดูดมากยิ่งขึ้นไปอีก ชุมชนลีเล็ด จังหวัดสุราษฎร์ธานีเอง เป็นชุมชนที่มีความเป็นธรรมชาติสูงเพราะให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในส่วนของ บริษัท อาเดลี จำกัด เริ่มส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนสำหรับผู้สูงวัย เพราะเห็นว่าเป็นรูปแบบที่มีมูลค่าทางจิตใจสูงสำหรับผู้สูงวัย ในขณะเดียวกันก็ได้ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืนด้วย ขอขอบคุณโครงการดีๆ แบบนี้ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ สร้างประสบการณ์ให้ผู้สูงวัยได้ท่องเที่ยวผ่านกิจกรรมชุมชน พร้อมกับประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนลีเล็ดค่ะ”
นางสาวชัญญาภัธต์ แก้วโสภา จากเพจอีหล้าพาลุย เพจท่องเที่ยวสำหรับ “Silver Age” กล่าวว่า “ในฐานะ “Silver Age” ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวอยู่แล้ว โครงการชนบทที่รัก ช่วยให้เรามีจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ ในประเทศไทย มีที่ที่เราไม่เคยไป ไม่เคยสัมผัสอยู่เต็มไปหมด ชุมชนเล็ก ๆ ในชนบทที่มีเสน่ห์ น่าค้นหา มีความเป็นธรรมชาติ มีความน่ารักของคนในชุมชน มันเป็นสิ่งที่เราชอบ และสุขใจที่ได้มาเที่ยวชุมชนแบบนี้ หลังจากที่ไปมาทุกที่ ท่องเที่ยวชุมชนก็เป็นที่ที่ตั้งใจว่าจะไปตามเก็บให้ครบเลยค่ะ”
รายละเอียดโปรแกรมท่องเที่ยวชุมชนสำหรับ Silver Age
สามารถเข้าดูได้ที่ www.ชนบทที่รัก.com (http://bit.ly/silverage50)
หรือ Facebook ชนบทที่รัก : @Chonnabotteerak
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit