SCB9: บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ แถลงผลประกอบการประจำงวด

22 Jul 1998

กรุงเทพ--22 ก.ค.--บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์แถลงผลประกอบการประจำงวด 6 เดือนแรกของปี 2541 โดยก่อนกันสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และสำรองค่าเผื่อการลดราคาหลักทรัพย์ ธนาคารมีผลกำไรก่อนภาษี เท่ากับ 7,324.9 ล้านบาท และเมื่อหักสำรองใน 2 รายการข้างต้น จำนวนทั้งสิ้น 19,774.1 ล้านบาทแล้ว ผลประกอบการมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 8,306.9 ล้านบาท

สาเหตุสำคัญของการขาดทุนนี้เป็นผลจากการที่ธนาคารจะต้องสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เพิ่มขึ้น 10,982.9 ล้านบาท ยอดสำรองดังกล่าวเป็นการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ตามผลที่ธนาคารแห่งประเทศไทยมาตรวจครั้งล่าสุดในปีนี้ ซึ่งนอกเหนือจากที่ธนาคารได้ตั้งสำรองไว้เต็มที่ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว ยังได้ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นสำหรับสินเชื่อรายอื่นที่เห็นว่าเข้าหลักเกณฑ์การจัดชั้นสินเชื่อของทางการ นอกจากนั้นธนาคารยังได้ตั้งสำรองเผื่อผลขาดทุนของหุ้นสามัญที่ธนาคารลงทุน จำนวน 8,791.2 ล้านบาท การตั้งสำรองดังกล่าวข้างต้นทั้งสองรายการเป็นเพียงการขาดทุนตามบัญชี การขาดทุนที่แท้จริงในกรณีของการสำรองหนี้สูญจะเป็นเท่าใดนั้นคงจะทราบได้หลังจากที่ได้ดำเนินการกับลูกหนี้และได้ตัดหนี้สูญจริงแล้วในอนาคต ส่วนยอดสำรองเผื่อผลขาดทุนของหุ้นสามัญก็คงจะผันผวนไปตามภาวะของตลาดหลักทรัพย์ หากภาวะตลาดฟื้นตัว ธนาคารก็จะมีกำไรเมื่อหุ้นมีราคาสูงขึ้น

อีกประการหนึ่งที่ทำให้กำไรของธนาคารลดลงมากก็เพราะธนาคารต้องส่งเงินเพื่อสมทบกองทุนเพื่อการพัฒนาและฟื้นฟูระบบสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นจากงวดที่แล้วอีกกว่า 4 เท่าตัว คิดเป็นเงินเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีผลของการขาดทุนในครั้งนี้แล้ว มูลค่าหุ้นตามบัญชีของธนาคาร (Book value) ยังมีราคาเท่ากับ 68 บาท/หุ้น และมีการดำรงเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ประมาณ 9% ซึ่งสูงกว่าอัตราขั้นต่ำตามหลักเกณฑ์ของ BIS คือ 8.5% และในปัจจุบันธนาคารก็มีมาตรการต่างๆ ในอันที่จะเพิ่มอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารให้สูงขึ้นกว่านี้ในอนาคต

ในงวดนี้อัตราสินเชื่อในประเทศต่อเงินฝากในประเทศเท่ากับร้อยละ 96.6 สินเชื่อที่ธนาคารปล่อยสินเชื่อในงวดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อการส่งออก และสินเชื่อเพื่อสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับเศรษฐกิจและความต้องการของประเทศ ส่วนสินเชื่อที่เป็นเงินตราต่างประเทศหรือ BIBF นั้น นอกจากธนาคารจะไม่ปล่อยเพิ่มขึ้นแล้วยังได้ดำเนินการให้ลดลงเป็นจำนวนมาก

ตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาในปี 2541 ธนาคารได้เน้นในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน ซึ่งมีผลให้ค่าใช้จ่ายทุกประเภทอยู่ภายในงบประมาณที่กำหนดและค่าใช้จ่ายหลายรายการลดลงเป็นจำนวนมาก ในเรื่องของการปรับปรุงประสิทธิภาพของพนักงานและระบบงาน ธนาคารได้เน้นในเรื่องการปรับปรุงคุณภาพของบริการตามมาตรฐานสากล โดยธนาคารได้รับใบรับรองคุณภาพมาตรฐานสากล ISO 9002 ด้านสินเชื่อทั่วไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ในปีนี้ธนาคารจะได้รับใบรับรองคุณภาพมาตรฐานสากลอีกหลายๆ ด้านด้วยกัน ในงวดที่ผ่านมาธนาคารได้รับด้านสินเชื่อบุคคลแล้ว และในครึ่งหลังของปีก็คาดว่าจะได้รับเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ด้าน คือในด้านเก็บรักษาหลักทรัพย์ (Custodian Service) และการให้บริการ ณ เคาน์เตอร์ที่จุดขายต่างๆ ของธนาคาร

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ โทร. 544-4501-3--จบ--

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit