ฟิทช์คงอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ ที่ BBB+(tha) แนวโน้มเครดิตยังคงเป็นลบ – แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนความเสี่ยงที่อัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ซึ่งวัดโดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Net Leverage) อาจยังคงอยู่สูงกว่า 6 เท่าในปี 2566 และหลังจากนั้น หากธุรกิจเติมน้ำมันอากาศยานฟื้นตัวช้ากว่าที่ฟิทช์คาดไว้ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS
เฟิสต์เอเลเมนต์ ฟูเอล จับมือฮุนได มอเตอร์ เติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนกับรถบรรทุกไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงคลาส 8 ซึ่งขับโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ไกลกว่า 25,000 ไมล์ – เฟิสต์เอเลเมนต์ ฟูเอล (FirstElement Fuel) ผู้ให้บริการโซลูชันเชื้อเพลิงไฮโดรเจนชั้นนำของโลก และฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor Company) ผู้นำในการพัฒนารถบรรทุกงานหนักที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงพลังงานไฟฟ้าคลาส 8
ฟิทช์คงอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ ที่ BBB+(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ – จากการที่บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BAFS ได้ลงนามในสัญญาให้สิทธิการบริหารระบบท่อส่งน้ำมัน (ช่วงกรุงเทพ-บางปะอิน) เป็นระยะเวลา 20 ปีแก่บริษัทย่อยของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้การจัดหาแหล่งเงินทุนของ FPT สำหรับค่าใช้จ่ายลงทุนในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า มีความชัดเจนมากขึ้น โดย FPT
ฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ เป็นลบ คงอันดับเครดิตที่ BBB+(tha) – แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ BAFS ต้องเผชิญในการลดอัตราส่วนหนี้สินให้ลงมาอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้า ซึ่งรวมถึงการอุบัติขึ้นของเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน ที่อาจส่งผลให้มีการปิดเมือง (Lockdown) และการบังคับใช้ข้อจำกัดในการเดินทางต่างๆ อีกครั้ง
FirstElement Fuel เครือข่ายบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปิดการระดมทุนรอบ Series D มูลค่า 105 ล้านดอลลาร์ – FirstElement Fuel Inc. บริษัทสตาร์ทอัพจากแคลิฟอร์เนียผู้สร้างเครือข่ายบริการเชื้อเพลิงไฮโดรเจนและเติบโตจนกลายเป็นผู้ค้าปลีกไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประกาศปิดการระดมทุนรอบ Series D มูลค่า 105 ล้านดอลลาร์จาก Air Water, MUFG Bank, Ltd. (MUFG), Nikkiso และ Japan Infrastructure Initiative (JII)
ฟิทช์ ปรับลดอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ เป็น A-(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ – การปรับลดอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS น่าจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบันของ BAFS เป็นอย่างมากในช่วง 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลก การลดลงของอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS
ฟิทช์ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกันของ บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ ที่ A(tha) – อันดับเครดิตของ BAFS สะท้อนถึงสถานะความเป็นผู้นำของบริษัทฯ ในตลาดให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในประเทศไทย รวมถึงอัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้นและอัตราการเติบโตที่ช้าลงของปริมาณการเติมน้ำมันอากาศยานของบริษัทฯ อันดับเครดิตของหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของ BAFS อยู่ในระดับเดียวกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบริษัทฯ
ฟิทช์ ปรับลดอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ เป็น A(tha) แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ – การปรับลดอันดับเครดิต สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าฐานะทางการเงินของ BAFS น่าจะอ่อนแอลงกว่าที่คาดไว้เดิม โดยปัจจุบัน ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ BAFS ที่วัดจากหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์และหนี้สินจากการดำเนินงาน (FFO –adjusted net leverage)
ฟิทช์ คงอันดับเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ ที่ A+(tha) แนวโน้มเครดิตเป็นลบ – แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สะท้อนถึงความเสี่ยงทางธุรกิจและความเสี่ยงในการก่อสร้างของโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันของ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด หรือ FPT ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BAFS รวมถึงการคาดการณ์ว่าอัตราส่วนหนี้สินจะเพิ่มสูงขึ้นชั่วคราวในช่วงของการลงทุนก่อสร้าง BAFS ยังไม่มีสัญญาระยะยาวในการขนส่งน้ำมันกับลูกค้าสำหรับส่วนขยายของท่อขนส่งน้ำมันในโครงการนี้
ฟิทช์ปรับแนวโน้มเครดิต บมจ. บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ เป็นลบ คงอันดับเครดิตที่ A+(tha) – การปรับแนวโน้มอันดับเครดิต สะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่าอัตราส่วนหนี้สินของบริษัทฯ จะเพิ่มสูงกว่าระดับที่เคยประมาณการไว้ และใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เดิมในการลดลงมาสู่ระดับที่สอดคล้องกับอันดับเครดิตในปัจจุบัน ทั้งนี้เนื่องจากค่าใช้จ่ายลงทุนสำหรับโครงการขยายท่อขนส่งน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและผลประกอบการที่อ่อนแอลงในปี 2560