กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นักศึกษาไทยเริ่มใช้ประโยชน์จากระบบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายภายในมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น แนวโน้มดังกล่าวเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นเมื่ออินเทลได้ดำเนินการติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายให้กับมหาวิทยาลัยต่างๆ ของประเทศไทยรวม 15 แห่ง และในประเทศอื่นๆ อีก 300 แห่งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งเป็น
ผลจากการที่อินเทลเล็งเห็นว่า การติดต่อสื่อสารแบบไร้สายเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้
ร่วมกันอย่างแข็งแกร่ง ผลจากการติดตั้งเครือข่ายไร้สายให้กับมหาวิทยาลัยดังกล่าว ทำให้การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในกลุ่มนักศึกษาและอาจารย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การสนับสนุนระบบการเชื่อมต่อเครือข่ายแลนไร้สายให้แก่มหาวิทยาลัยต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Mobile Initiative for Learning in Education (MILE) ที่อินเทลริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำระบบการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายไร้สายและการใช้คอมพิวเตอร์ในลักษณะโมบิลิตี้ ผนวกกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมเข้าไว้ในระบบการศึกษาของสถาบันการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญต่อการพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของนักเรียนนักศึกษาในสังคมที่เน้นองค์ความรู้เป็นพื้นฐานสำคัญ
ด้วยประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม อินเทล เซนทริโน โมบายล์ เทคโนโลยี ทำให้อินเทลสามารถนำเสนอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติต่างๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนนักศึกษา
ทั้งคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย สมรรถนะของเครื่องที่สูงกว่าเดิม น้ำหนักของตัวเครื่องเบาขึ้น และมีขนาดเล็กลง การเชื่อมต่อเครือข่าวผ่านจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายที่ติดตั้งภายในมหาวิทยาลัย ช่วยให้เกิดพัฒนาการที่ดีขึ้นทั้งในด้านเรียน การทำวิจัย และการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน จากผลการสำรวจที่อินเทลได้ให้การสนับสนุนในการสำรวจมหาวิทยาลัยในเอเชียรวม 360 แห่ง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยของไทย จำนวน 15 แห่งที่เข้าร่วมโครงการ MILE ได้ระบุถึงสิ่งที่เป็นแรงจูงใจและข้อจำกัดต่อการดำเนินการติดตั้งโซลูชั่นเครือข่ายแลนไร้สายและอีเลิร์นนิ่งว่า ความสะดวกและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ได้อย่างต่อเนื่องในทุกที่ทุกเวลาถือเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญอย่างหนึ่งในการติดตั้งโซลูชั่นเครือข่ายแลนไร้สายสำหรับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในเอเชีย ผู้ร่วมในการสำรวจตอบว่าตนรู้สึกได้ถึงความสามารถที่ได้รับในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไม่ต้องพะวงกับการหาปลั๊กเพื่อเสียบสายโทรศัพท์อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ตอบแบบสำรวจยังเป็นกังวลอยู่คือ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ และความเสถียรของโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเครือข่ายไร้สายและความเร็วโดยรวมของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้โซลูชั่นโมบายล์ไร้สายยังช่วยพัฒนาระบบการศึกษาให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่ครูอาจารย์สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการสอนให้ก้าวหน้าขึ้น ทำให้นักเรียนนักศึกษาสนใจการเรียนรู้สิ่งต่างๆ ผ่านระบบอีเลิร์นนิ่ง และสามารถรับข้อมูลจากการสอนในแต่ละครั้งจากเครือข่ายไร้สายได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ส่งผลให้นักเรียนและนักศึกษาสามารถจัดการตารางเวลาของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไร ก็ตาม การเรียนรู้แบบอีเลิร์นนิ่งยังคงเป็นไปได้อย่างช้าๆ เนื่องจากครูอาจารย์ยังคงวิธีการสอนแบบเดิมๆ และบางครั้งยังมีการใช้วิธีการสอนที่ล้าสมัย จึงไม่เกิดแรงจูงใจมากพอที่จะพยายามหารูปแบบการสอนใหม่ๆ เข้ามาช่วย
“โครงการ Mobile Initiative for Learning in Education ของอินเทลมีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดการติดตั้งโครงข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายและการใช้งานคอมพิวเตอร์โมบายล์ในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้มหาวิทยาลัยสามารถสร้างระบบการศึกษาในระดับโลกต่อไปได้ จากผลการสำรวจมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการ MILE ทั้งหมดนั้น พบว่ามหาวิทยาลัยของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตและการใช้งานไวไฟสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
นอกจากนี้ การสำรวจยังพบอีกว่า ราคายังเป็นอุปสรรคสำคัญประการหนึ่งในการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานไอทีจากระบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดยในประเทศที่กำลังพัฒนานั้น พบว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งไม่มีเงินทุนสนับสนุนเพียงพอต่อการติดตั้งเครือข่ายแลนไร้สาย อย่างไรก็ตาม การสำรวจครั้งนี้ยังได้ให้ตัวอย่างของมหาวิทยาลัยที่มีการติดตั้งเครือข่ายไวไฟด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งลง “การลงทุนในโครงการติดตั้งเครือข่ายไร้สายภายในมหาวิทยาลัยนับว่าเป็นการลงทุนมูลค่าต่ำเมื่อเทียบกับเครือข่ายอื่นๆ ในห้องคอมพิวเตอร์ห้องหนึ่ง เราสามารถติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ในจำนวนที่จำกัด แต่หากเทียบกับการติดตั้งเครือข่ายไร้สายและการลงทุนซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแล้ว เมื่อนักเรียนสามารถซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเป็นของตนเองเพียงหนึ่งตัว เท่ากับว่าเรามีคอมพิวเตอร์กระจายตามที่ต่างๆ
นอกห้องเรียนเป็นจำนวนหลายตัว” รศ.ยืน ภู่วรวรรณ รองอธิการบดีฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าว
ในแต่ละปี อินเทลลงทุนเงินเป็นจำนวนหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐในประเทศต่างๆ ถึง 50 ประเทศทั่วโลก เพื่อดำเนินโครงการต่างๆ ที่ช่วยพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้ทันสมัย ตลอดจนช่วยขยายขอบเขตการเรียนรู้ไม่ให้จำกัดอยู่แต่เฉพาะในห้องเรียน ทำให้นักเรียนประสบผลสำเร็จด้านการศึกษา และเป็นการจุดประกายให้เกิดนักเทคโนโลยีตัวฉกาจต่อไปในอนาคต
อินเทลเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำในการผลิตอุปกรณ์สำหรับคอมพิวเตอร์
ส่วนบุคคล ระบบเครือข่าย และอุปกรณ์สื่อสาร ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom
Intel เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ อินเทล คอร์ปอเรชั่น หรือสำนักงานสาขาในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ขอสงวนสิทธิ์
คุณกรรภิรมย์ อึ้งภากรณ์ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ โทรศัพท์: (66 2) 654-0654
โทรศัพท์: (66 2) 627-3501 e-Mail: [email protected]
e-Mail: [email protected]จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit