ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมแจ้งเตือน 14 จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือฝนตกเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 26 - 30 ก.ย.58 – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลพายุ หว่ามก๋อทำให้เกิดฝนตกเป็นบริเวณกว้างอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน มีจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย 24 จังหวัด รวม 70 อำเภอ 206 ตำบล 950 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อคลี่คลายแล้วทุกจังหวัด ประสาน 14 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกเพิ่มขึ้นและคลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 27 – 30 ก.ย. 58 – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อที่ทำให้เกิดอุทกภัยใน 24 จังหวัด 70 อำเภอ 206 ตำบล 950 หมู่บ้าน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้วทุกจังหวัด พร้อมประสานจังหวัดที่ประสบภัย จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ สำรวจ
แจกน้ำดื่มช่วยเหลือผู้เดือดร้อนจากพายุหว่ามก๋อ – นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า กปภ.สาขาพัทยา จ.ชลบุรี และ กปภ.สาขาบ้านฉาง จ.ระยอง เป็น กปภ. 2 สาขาในภาคตะวันออก ที่ได้รับผลกระทบจากพายุหว่ามก๋อ โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นชัดเจนคือ ท่อส่งจ่ายน้ำประปาของ กปภ. ทั้ง 2 สาขา มีสภาพชำรุดจากกระแสน้ำพัดขาดช่วงและเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ไม่มีน้ำใช้อุปโภคบริโภค เนื่องจากต้องปิดจ่ายน้ำชั่วคราว ซึ่ง กปภ.สาขาพัทยา
ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อใน 24 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 4 จังหวัด – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า มีจังหวัดเกิดสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง
ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ 7 จังหวัด พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย - ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ทำให้มีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 24 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
“รมว.เกษตรฯ” สั่งกรมชลฯ เร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมขังในภาคตะวันออก ยันพร้อมรับน้ำเข้าเขื่อน พร้อมชี้หว่ามก๋อส่งผลฝนตกกระจายหลายพื้นที่ช่วยบรรเทาแล้งในพื้นที่การเกษตรลุ่มเจ้าพระยา พร้อมสั่งทุกกรมติดตามผลกระทบภัยแล้ง – ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมกรมชลประทานได้รายงานว่า เกิดน้ำไหลหลากและมีน้ำล้นอ่างเก็บน้ำในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ในเขตชลประทานไม่เกิดผลกระทบใดๆ เนื่องจากก่อนพายุเข้าปริมาณน้ำในอ่างฯมีไม่มาก
มท.1 สั่งการ ปภ. ประสานจังหวัดเร่งระบายน้ำ – ช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว ทั่วถึงและเป็นธรรม – พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ทำให้มีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 23 จังหวัด ซึ่งขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 17 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 6 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว สุราษฎร์ธานี ปราจีนบุรี พังงา ระยอง และจันทบุรี
ปภ.รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ 6 จังหวัด พร้อมระดมสรรพกำลังเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 - ปัจจุบัน (20 ก.ย. 58) มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักของอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ จำนวน 19 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง
มท.1 สั่งการ ปภ.ประสานปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย จากพายุหว่ามก๋ออย่างเต็มกำลัง ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับเข้าสู่สภาพปกติโดยเร็ว – พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเกี่ยวกับสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อณ วันที่ 20 กันยายน 2558 ว่าปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบภัย 6 จังหวัด ได้แก่ พังงา ระยอง ชุมพร จันทบุรี ตราด และสตูล
ปภ.รายงานมีพื้นที่ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ 6 จังหวัด พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย - ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ทำให้มีพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย จำนวน 23 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา นครนายก กระบี่ พัทลุง นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์
คปภ. แนะประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุ “หว่ามก๋อ” ประกันภัยคุ้มครอง – นายประเวช องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมหนักจากพายุ "หว่ามก๋อ" ในหลายพื้นที่ของประเทศ ขอให้ผู้ประสบภัยตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัยว่าให้ความคุ้มครองกรณีน้ำท่วมหรือไม่ และเร่งสำรวจความเสียหาย
ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ พร้อมระดมสรรพกำลังเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 - ปัจจุบัน มีจังหวัดได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักของอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ จำนวน 15 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี พังงา ชุมพร ตราด สระบุรี ระนอง สตูล ตาก จันทบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ ตรัง ฉะเชิงเทรา และนครนายก รวม 27 อำเภอ 65 ตำบล 287 หมู่บ้าน
ปภ.ประสาน 65 จังหวัด รับมือภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ ช่วงวันที่ 17 – 18 ก.ย. 58 – นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชันหว่ามก๋อ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ มีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง
กปภ.สาขาพัทยาและสาขาบ้านฉาง ยืนยันจ่ายน้ำได้ตามปกติ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง – นางรัตนา กิจวรรณ ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุหว่ามก๋อ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2558 พบว่าขณะนี้มี กปภ. 2 สาขา ที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง โดย กปภ.สาขาพัทยา จ.ชลบุรี ประสบปัญหาท่อส่งจ่ายน้ำประปาขาดเนื่องจากกระแสน้ำที่ไหลพัดเข้ามาปะทะท่ออย่างรุนแรง
มท.1 สั่งการ ปภ. เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย – แก้ไขปัญหาน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ – พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1)กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า พายุหว่ามก๋อได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย โดยตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2558 – ปัจจุบัน
มท. สั่งการ ปภ. บูรณาการจังหวัดรับมือผลกระทบพายุหว่ามก๋อ – พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นหว่ามก๋อ ส่งผลให้ภาคกลางและภาคตะวันออกมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและฝนตกหนักบางแห่ง นายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักของอิทธิพลพายุหว่ามก๋อ ซึ่งบางพื้นที่อาจเกิดสถานการณ์น้ำท่วมจากน้ำระบายไม่ทัน ได้มีข้อสั่งการ
มท. สั่งการ ปภ. ประสาน 13 จังหวัดเสี่ยงอุทกภัย บูรณาการรับมือผลกระทบพายุหว่ามก๋อ 16-18 ก.ย.58 – พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับ กรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า พายุดีเปรสชั่นหว่ามก๋อ ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้ภาคกลางและภาคตะวันออกยังคงมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและฝนตกหนักบางแห่ง