-ฟิลิปส์มุ่งมั่นสร้างตลาดหลอดไฟ LED เพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม
บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ "Philips LEDท้าเปลี่ยนจริง ประหยัดจริง" ปูพรมจัดกิจกรรมการตลาด 360 องศา กระตุ้นผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี เพื่อประหยัดค่าไฟ ลดใช้พลังงาน และลดภาวะโลกร้อน ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านแสงสว่างอันดับ 1 ในประเทศไทย
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่าง บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ในปีนี้ ฟิลิปส์มุ่งมั่นในการสร้างตลาดหลอดไฟ LED ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยแคมเปญ "Philips LED ท้าเปลี่ยนจริง ประหยัดจริง" เป็นอีกแคมเปญการตลาดใหม่ที่ฟิลิปส์ตั้งใจสร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดีมากยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมการตลาด 360 องศา ทั้ง Above the line และ Below the line"
ภายใต้ "แคมเปญ "Philips LED ท้าเปลี่ยนจริง ประหยัดจริง" ฟิลิปส์มอบโปรโมชั่นพิเศษ ลดทันที 20 บาท สำหรับหลอดไฟ ฟิลิปส์ LED ขั้วเกลียวทุกรุ่น ทุกหลอด ตั้งแต่วันที่ 1-30 กันยายน 2558 นี้ โดยหลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดี ขนาด 3 วัตต์ และ3.5 วัตต์ จาก 99 บาท เหลือ 79 บาท ขนาด 4 วัตต์ จาก 119 บาท เหลือ 99 บาท ขนาด 6 วัตต์ จาก 149 บาท เหลือ 129 บาท ขนาด 7 วัตต์ และ 7.5 วัตต์ ราคา 169 บาท บาท เหลือ 149 บาท ขนาด 9 วัตต์ และ 9.5 วัตต์ จาก 199 บาท เหลือ 179 บาท ขนาด 10.5 วัตต์ จาก229 บาท จาก 229 บาท เหลือ 209 บาท และขนาด 13 วัตต์ และ 14 วัตต์ จาก 299 บาท เหลือ 279 บาท ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ห้างจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ฟิลิปส์ตอกย้ำและกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ กิจกรรมออนไลน์ และจัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสาย 16 จังหวัด เพื่อรณรงค์ให้ผู้บริโภคไทยสามารถประหยัดพลังงานด้วยวิธีง่ายๆ โดยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี
สำหรับการจัดกิจกรรมโรดโชว์นั้นเริ่มต้นครั้งแรกในงานเปิดตัวแคมเปญ "Philips LED ท้าเปลี่ยนจริง ประหยัดจริง" ที่จัดขึ้นที่ ห้างสรรพสินค้า ดิเอ็มควอเทียร์ โดยมีกิจกรรมไฮไลท์ คือการแข่งขัน "ท้าเปลี่ยนจริง" เป็นการแข่งขันเปลี่ยนหลอดไฟระหว่าง ดาราสาวสุดฮ็อต มิ้นต์ ชาลิดา กับ หนุ่มนักชกสัญชาติฝรั่งเศส อองตวน ปินโต เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นกว่าการเปลี่ยนหลอดไฟนั้นทำได้ง่ายๆ และผลลัพธ์ที่ได้คือเปลี่ยนวันนี้ สามารถประหยัดได้ทันที โดยจำนวนหลอดไฟที่ผู้ชนะเปลี่ยนได้ จะถูกนำไปคูณด้วยจำนวนเงิน1,000 บาท พร้อมด้วยเงินสมทบทุนจากฟิลิปส์ นำทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยสมทบทุนโครงการพัฒนาต่างๆ
นายเฉลิมพงษ์ กล่าวว่า "แคมเปญ "Philips LED ท้าเปลี่ยนจริง ประหยัดจริง" จะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อหลอดไฟ จากเดิมที่ต้องรอให้หลอดไฟเสียก่อนถึงจะเปลี่ยนใหม่ แต่ว่าแคมแปญนี้จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟิลิปส์ LED ได้ทันทีและเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะเพียงแค่ผู้บริโภคตัดสินใจปลดหลอดไส้แบบเดิมที่ใช้อยู่ และเปลี่ยนมาเป็นหลอดไฟแอลอีดี ก็จะสามารถประหยัดพลังงานได้ทันทีสูงมากถึง 85% หรือหากเทียบความประหยัดกับหลอดประหยัดไฟ (หลอดตะเกียบ)แล้วก็จะสามารถประหยัดได้สูงถึง 40%
และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความต้องการใช้หลอดไฟแอลอีดีมากขึ้น ในครึ่งปีหลังพ.ศ. 2558 ฟิลิปส์แนะนำหลอดไฟฟิลิปส์ LED ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีมากขึ้น นั่นคือ หลอดไฟได้รับการดีไซน์มาให้สามารถกระจายแสงได้ในองศาที่กว้างขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกๆ การใช้งาน ตลอดจนแสงที่ส่องสว่างนั้นให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล ถนอมสายตา ปราศจากรังสี UVนอกจากนี้ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพราะปราศจากสารปรอท อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 15 ปี* (คำนวณจากอัตราการใช้2.5 ชม. / วัน) และมากถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับหลอดประหยัดไฟ (หลอดตะเกียบ)
อีกทั้งยังมีนวัตกรรมใหม่ด้วยหลอดไฟ LED Scene Switch มาพร้อมกับคุณสมบัติที่สามารถปรับเปลี่ยนโทนแสงคูลเดย์ไลท์และวอร์มไวท์ (3000k&6500k) ได้ในหลอดเดียวด้วยการ "ปิดและเปิด" สวิตซ์ไฟตัวเดิมโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศในห้องอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้ว
นอกจากนี้ฟิลิปส์แนะนำนวัตกรรม LED ใหม่ๆ ด้วย เช่น EcoFit LED Tube หลอดไฟ LED ชนิดตรงที่สามารถเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์เดิมที่ใช้อยู่แล้วได้ทันที โดยไม่ต้องทำการติดตั้งระบบไฟใหม่ และฟิลิปส์ยังเพิ่มสินค้า LED ขนาดวัตต์ใหม่นั่นคือ 18 วัตต์ (Mega Bright) ที่มีประสิทธิภาพให้แสงสว่างเป็นพิเศษสามารถใช้กับโคมเพดานสูงได้ เป็นต้น" นายเฉลิมพงษ์ กล่าวฟิลิปส์ ตระหนักดีว่า ประมาณ 1 ใน 5 หรือ 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมด เป็นการใช้พลังงานเพื่อกำเนิดแสงสว่าง ดังนั้นหากมีการใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมแล้วจะทำให้สามารถใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่า ดังนั้นหากคนไทยทั้งประเทศร่วมมือกันจะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลง และทำให้เรามีทางออกของการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันมีการใช้หลอดตะเกียบกว่า 50 ล้านหลอด หากเปลี่ยนมาเป็นหลอด แอลอีดี จะสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 292 ล้านหน่วย/ปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 149.300 ตัน/ปี ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าได้ปีละประมาณ 1,080 ล้านบาท (1,080,400,000บาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปพัฒนาและสร้างสาธารณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อย่างมากมาย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit