การรณรงค์ครั้งนี้เรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ชะลอการสร้างเรือนจำนี้ไปก่อน เพื่อให้เวลานักพฤกษศาสตร์เร่งเก็บตัวอย่างพืชชนิดนี้ให้ได้มากที่สุดก่อนนำไปปลูกที่อื่นเพราะนอกจากจะเป็นพืชหายากและมีอยู่ในธรรมชาติในพื้นที่แห่งนี้เพียงแห่งเดียวในโลกแล้ว ยังมีข้อมูลระบุว่า เชื้อราหรือแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในพืชชนิดนี้ อาจนำไปสู่การค้นพบยาปฏิชีวนะ ยาต้านอนุมูลอิสระ หรือยาต้านมะเร็งอีกด้วย
นาย เพชร มโนปวิตร ตัวแทนการรณรงค์จากกลุ่ม "คนอนุรักษ์" กล่าวว่า "หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้เป็นชนิดเดียวของไทยที่ได้รับการขึ้นบัญชี Red List ในสถานภาพใกล้สูญพันธ์ุอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าวิกฤติกว่าเสือโคร่ง"
กลุ่มคนอนุรักษ์อธิบายว่า การดำเนินการอนุรักษ์หม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้กำลังดำเนินไปด้วยดี เพราะได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายทั้งสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และมีแผนการอนุรักษ์อย่างรอบด้าน ทั้งความพยายามขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ รวมทั้งการอบรมและจัดค่ายวิทยาศาสตร์เพื่อให้ความรู้แก่โรงเรียนต่างๆ "แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการอนุรักษ์ถิ่นอาศัยดั้งเดิม และป้องกันการถูกลักลอบขุดออกไปขาย"
"โชคร้ายที่ขณะนี้หน่วยงานราชการเจ้าของพื้นที่มีแผนก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งเมื่อเริ่มก่อสร้างเมื่อไหร่ก็จะทำให้ หม้อข้าวหม้อแกงลิงสายพันธุ์นี้มีสถานะสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ (Extinct in the Wild) ทันที"
"ซึ่งถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่นั่นก็หมายความว่าควรชะลอไปก่อน เพื่อให้การช่วยชีวิตเป็นไปอย่างสมบูรณ์ และถ้าเป็นไปได้ควรพิจารณาว่าจะเหลือพื้นที่ดั้งเดิมไว้บ้างได้หรือไม่ เพราะพืชเฉพาะถิ่นนี้น่าจะเป็นความภูมิใจของชาวสุราษฏร์และคนไทยทั้งหมด" นายเพชรกล่าว
กลุ่มคนอนุรักษ์เชิญชวนให้ประชาชนลงชื่อผ่าน Change.org/savenepenthes เพื่อเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ชะลอการสร้างเรือนจำสุราษฏร์ธานีออกไปก่อน แล้วหามาตรการที่เหมาะสมในการอนุรักษ์ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงชนิดนี้ให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองสุราษฏร์ธานี เป็นสมบัติของประเทศไทยและของโลกต่อไป
เรื่องรณรงค์ยอดนิยมประจำสัปดาห์บน Change.org
เรื่องรณรงค์ที่ได้รับชัยชนะล่าสุด: สนช. ผ่านการแก้ไขประมวลกฏหมายอาญา ให้การครอบรองสื่อลามกเด็กผิดกฎหมาย
Change.org คือเว็บไซต์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สร้างการรณรงค์ เพื่อระดมความร่วมมือในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและสร้างสรรค์สิ่งดีๆ สู่สังคม
ตั้งแต่คุณแม่ที่รณรงค์ให้ยุติการฉายหนังโหดบนรถทัวร์ที่เมืองไทย ไปจนถึงการรณรงค์ให้ธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตในสหรัฐอเมริกา มีผู้ใช้ Change.org มากกว่า 100 ล้านคนในกว่า 196 ประเทศทั่วโลก ปัจจุบัน Change.org มีสาขาในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก โดยของไทยมีผู้ใช้แล้วกว่า 1,000,000 คน และมีการรณรงค์ที่ประสบความสำเร็จไปแล้วมากมายข้อมูลเพิ่มเติมwww.change.orghttp://www.facebook.com/changeorgthailand http://www.twitter.com/changethailand
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit