โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ห่วงใยในสถานการณ์โควิด-19 แนะนำผู้ปกครอง เด็กที่มีความจำเป็นด้านพัฒนาการสมวัยไม่ควรขาดการพบแพทย์ตามนัด พร้อมเปิดพื้นที่ปลอดเชื้อสำหรับเด็กที่เข้ารับวัคซีน และแยกอาคาร คลินิกปลอดเชื้อสำหรับเด็กป่วยทั่วไป แยกออกจากเด็กป่วยโรคหวัด รวมถึงเพิ่มมาตรการความปลอดภัยและความสะอาด ลดโอกาสติดเชื้อ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองและเด็ก เริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป
นายแพทย์ชาตรี เรืองฤทธิ์นำชัย กุมารแพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์กล่าวว่า “การที่เด็กได้มาพบแพทย์ตามนัดมีผลต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของเด็กอย่างมาก ที่ผ่านมาผู้ปกครองส่วนใหญ่ยังพาบุตรหลานมารับวัคซีนและรับการรักษาเกี่ยวกับพัฒนาการเด็กที่โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ปกครองสามารถสบายใจ และมั่นใจในความปลอดภัยที่มีต่อผู้ปกครองเองและตัวเด็กได้ เพราะมีการแยกพื้นที่ทางเข้า-ออกโรงพยาบาลสำหรับเด็กป่วยโรคหวัด และพื้นที่ปลอดเชื้ออย่างเป็นสัดส่วน ลดโอกาสที่เด็กจะสัมผัสเชื้อและติดเชื้อให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม อาการโรคโควิด-19 ในเด็กมักไม่รุนแรงและอันตรายเท่าผู้ใหญ่ ถ้าหากเด็กได้รับเชื้อแล้วส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง แต่เมื่อเด็กมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัดก็ไม่ควรมองข้าม ควรพามาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เริ่มมีอาการ เพราะกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงไม่ใช่เด็ก แต่เป็นผู้สูงอายุที่อาจอยู่ใกล้ชิดกับเด็ก ซึ่งถ้าหากเด็กได้รับเชื้อโรคโควิด-19 แล้ว อาจแพร่ไปสู่ผู้สูงอายุ เด็กอาจจะไม่มีอาการและหายได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้ใหญ่อาจเป็นอันตรายจากการรับเชื้อได้”
สำหรับมาตรการปลอดเชื้อของโรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ มีการจัดพื้นที่บริการใหม่ทั้งหมด โดยแบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ 1)โซนสำหรับเด็กป่วยโรคหวัด 2)คลินิกสุขภาพเด็กดี(Well Baby Clinic) สำหรับเด็กที่มารับการฉีดวัคซีนตามนัด ตรวจด้านพัฒนาการ โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคของต่อมไร้ท่อ หนุ่มสาวก่อนวัย แก้ปัญหาส่วนสูง ฯลฯ และ 3)คลินิกปลอดเชื้อ ซึ่งแยกอาคารออกมาจากโรงพยาบาลเด็ก เพื่อเป็นที่ตรวจรักษาเด็กป่วยที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ ประกอบด้วยศูนย์รักษาโรคต่างๆ ได้แก่ ศูนย์โรคลมชัก ศูนย์โรคผิวหนัง ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร ศูนย์โรคเลือด ศูนย์โรคไต และศูนย์ทันตกรรม สำหรับคลินิกสุขภาพเด็กดีและอาคารคลินิกปลอดเชื้อได้จัดแยกทางเข้า และที่จอดรถแยกจากส่วนอื่น เพื่อให้ผู้ปกครองที่พาบุตรหลานมาพบแพทย์ตามนัด ได้มั่นใจในความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการสัมผัสรับเชื้ออื่นๆ เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00-20.00 น.
นอกจากนี้นายแพทย์ชาตรี มีคำแนะนำต่อผู้ปกครองที่ต้องดูแลเด็กๆ ว่า “ในช่วงที่มีการรณรงค์เว้นระยะห่างทางสังคม ทำให้เด็กๆ ต้องอยู่ในบ้านไม่สามารถออกไปโรงเรียน ทำกิจกรรมร่วมกับเด็กในวัยเดียวกันได้ ถ้าหากในระยะสั้น การเล่นกับคนในครอบครัวก็ยังสามารถทดแทนได้และไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากยังมีการปิดโรงเรียนต่อไปในระยะยาวขึ้น อาจมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางสังคมของเด็ก เบื้องต้นให้ผู้ปกครองช่วยดูแลและอยู่ด้วยกันอย่างใกล้ชิด เด็กอาจเล่นเกมได้ แต่ก็ควรให้มีกิจกรรมที่ได้ปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างด้วย เช่น การเล่นกับคุณพ่อคุณแม่ เดินออกกำลังกายร่วมกันในครอบครัว เป็นต้น”
สำหรับโรงพยาบาลสินแพทย์ เป็นโรงพยาบาลที่พร้อมให้บริการรักษาในทุกสาขา ดำเนินการมาแล้วกว่า 28 ปี ภายใต้แนวคิด “เบื้องหลังทุกการรักษาคือความใส่ใจ”โรงพยาบาลสินแพทย์จึงมีความตั้งใจที่จะดูแลรักษาคนไข้ให้มากกว่าการรักษาโรค คือการดูแลรักษาใจของคนไข้ด้วย ปัจจุบันมีโรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ทั้งหมด 6 สาขา ได้แก่ โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา โรงพยาบาลสินแพทย์ เทพารักษ์ โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ โรงพยาบาลสินแพทย์ ลำลูกกา และโรงพยาบาลเสรีรักษ์ สำหรับบริการคลินิกพิเศษและมาตรการแบ่งพื้นที่ปลอดเชื้อ จะเริ่มนำร่องที่โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา และ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา ในช่วงเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป และจะดำเนินการมาตรการเหล่านี้ที่ทุกสาขาในอนาคต โรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ทุกแห่ง ขอยืนยันที่จะรักษาทุกอาการป่วยของทุกคน พร้อมดูแลทั้งสุขภาพกาย-ใจและยืนหยัดอยู่เคียงข้างก้าวผ่านสถานการณ์นี้ด้วยความใส่ใจที่สินแพทย์ยึดมั่นเสมอมา
ผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อโรงพยาบาลในกลุ่มสินแพทย์ได้ทุกสาขา หรือติดต่อที่ โรงพยาบาลเด็กสินแพทย์ รามอินทรา เลขที่ 9/99 ถ.รามอินทรา 52 กม.9 เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร, เว็บไซต์ www.synphaet.co.th, เฟสบุ๊คแฟนเพจ facebook.com/synphaet.hospital, ไลน์@synphaetlineหรือโทรศัพท์หมายเลข 02-793-5000
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit