พี่สอนน้องผ่าน “คาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง” กระตุ้นผู้ใหญ่ ใส่ใจนำความรู้สู่เยาวชน

29 Aug 2008

กรุงเทพฯ--29 ส.ค.--สสอน.

“รู้สึกสนุกและดีใจที่ได้เล่นของเล่นใหม่ๆ ค่ะ” นี่คือความรู้สึกของ เด็กหญิงจารุก แก้วนวล หรือน้องป๋อม นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) น้องป๋อมเล่าด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นอกจากนั้นยังบอกอีกว่าตื่นเต้นที่ได้เล่นเกม ฟังนิทาน และทำกิจกรรมที่พี่ๆ นักศึกษาอาสาสมัครสอนให้ทำได้ทุกอย่าง ผ่านโครงการ “คาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง” ของสถาบันส่งเสริมอัจฉริยภาพและนวัตกรรมการเรียนรู้ (สสอน.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงเรียน และสวนสาธารณะ ในพื้นที่เขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายนนี้

งานนี้ สสอน. นำนวัตกรรมการเรียนรู้และการส่งเสริมอัจฉริยภาพออกเผยแพร่และบริการสาธารณะ ในรูปแบบของ “คาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง” ซึ่งเป็นกลไกและเครื่องมือสำคัญในการนำสื่อประเภทต่างๆ ที่เหมาะสมต่อการส่งเสริมและพัฒนาเด็กไทยตามพัฒนาการของสมองแต่ละช่วงวัยอย่างเต็มตามศักยภาพ โดยคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง และคุณครูทุกคน สามารถรูปแบบกิจกรรมคาราวานเพื่อนหนูคู่สมองนี้ไปประยุกต์ใช้ในการสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย

รูปแบบของ “คาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง” ที่ออกเผยแพร่นวัตกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้ มีลักษณะเป็น รถบรรทุก 6 ล้อ ที่ออกแบบให้เปิดด้านข้างและด้านหลังแบบยกขึ้น ด้วยระบบไฮโดรลิก ภายในรถมีชั้นวางหนังสือที่เก็บของเล่น สื่อ อุปกรณ์ต่างๆ ภายนอกติดสติ๊กเกอร์สีสันสดใส และจัดสื่อและผลิตภัณฑ์ประจำรถ เช่น หนังสือ ของเล่นพัฒนาการ และหุ่นมือ เป็นต้น โดย “พี่คิดดี” มาสค็อทสุดน่ารัก นำน้องๆ ทุกคนสนุกสนานไปกับ “กิจกรรมสันทนาการ” และฝึกทักษะพัฒนาสมองพร้อมเสริมสร้างพัฒนาการตามกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Brain-based Learning (BBL) กับกิจกรรม 4 ฐาน ได้แก่ ภาษา การคิด ศิลปะ และการเคลื่อนไหว

โดยรูปแบบกิจกรรมสนุกสนานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่านิทาน การแสดงนิทานหุ่นมือ การสร้างงานจากวัสดุจากธรรมชาติ โดยการประดิษฐ์ปลากระดาษ การฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบแยกส่วนต่างของร่างกาย กิจกรรมเข้าจังหวะ การเล่นฮูลาฮู้ป การโยนห่วงลงกรวย และการโยนบอลลงตะกร้า เป็นต้น ทั้งนี้น้อง ๆ จะได้รับการพัฒนาทั้งทางร่ายกาย จิตใจ อารมณ์ สังคมและสิปัญญา

ส่วน เด็กชายณัฐพงศ์ ปัถวี หรือน้องเอิ๊ก นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) เล่าว่า ไม่เคยเล่นของเล่นแบบนี้มาก่อน รู้สึกสนุก และชอบการเรียนแบบนี้ พี่ๆ อาสาสมัครสอนสนุก เข้าใจง่าย อยากให้พี่ๆ มาจัดกิจกรรมอย่างนี้อีกเรื่อย ๆ

น้องโฟน เด็กชายปรียาพร อิสระฉันท์ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) บอกพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาที่สดใส ถึงความภาคภูมิใจในงานศิลปะรูปหัวใจ ที่ได้ตั้งใจทำด้วยตนเองจนสำเร็จ เพื่อนำไปมอบเป็นของขวัญแทนความรักให้คุณแม่

นางสาวทัศนีย์ บุญปกป้อง หรือพี่นุ้ย นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นักศึกษาอาสาสมัครโครงการคาราวานเพื่อนหนู เป็นผู้ดูแลการเล่านิทาน การแสดงนิทานหุ่นมือ ร่วมกับเพื่อนๆ จัดกิจกรรมการเล่านิทานโดยใช้ภาษาง่ายๆ และใช้รูปแบบการเล่นคำซ้ำ การเลียนเสียง การเล่นคำ และการออกท่าทางตามเพลงสั้น ซึ่งง่ายต่อการจดจำของเด็ก และเป็นการเสริมสร้างและพัฒนาทักษะทางด้านภาษาของเด็กๆ นอกจากนี้พวกเขาจะเกิดความสนุกสนาน หัวเราะครื้นเครง โดยไม่รู้ว่าได้เรียนรู้ทางทักษะต่าง ๆ

ทั้งนี้น้องนุ้ยยังบอกด้วยนำเสียงหนักแน่นว่าอนาคตจะเป็นครูอนุบาลที่ดี และจะใช้ประสบการณ์นี้ให้เป็นประโยชน์ ให้เด็กที่จะสอนต่อไปในอนาคตได้รับความรู้และความสนุกสนานไปพร้อมๆ กัน สอดแทรกความกล้าและการปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาพการเปลี่ยนแปลงในสังคม

นางสาวสมกมล ลาภบริสุทธิศักดิ์ หรือน้องส้ม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร บอกว่า เด็กทุกคนมีพัฒนาการที่ไม่แตกต่างกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละคน ดังนั้น เราต้องค่อย ๆ เรียนรู้และสร้างมิตรภาพกับเด็กๆ โดยเน้นการใช้ประโยชน์จากการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการกระตุ้นให้เด็กเกิดการรับรู้ โดยที่เด็กจะได้เรียนรู้อย่างสนุกสานโดยแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเองได้เรียนรู้สิ่งนั้นเลย

“เห็นเด็กสนใจ ยิ้ม และหัวเราะ ก็ทำให้ประทับใจและปลื้มมากค่ะ ดีใจที่ได้มีโอกาสมาร่วมในกิจกรรมนี้ เพราะชอบอยู่กับเด็ก ทำให้ได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เข้ากับเด็กแต่ละคน เพราะแต่ละคนมีลักษณะอุปนิสัยที่ต่างกัน ซึ่งเป็นประโยชน์มากในการนำไปปรับใช้ในอนาคต” สมกมลกล่าวอย่างภูมิใจ

นางสาวชนาภา สงค์สมบัติ หรือพิม นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ดูแลฐานศิลปะสร้างสรรค์ บอกว่า รู้สึกประทับใจและภูมิใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเด็ก และช่วยให้ ครู และผู้ปกครองได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก และจะนำประสบการณ์ไปใช้ในการเรียนการสอนต่อไป

ด้าน คุณครูประภารัตน์ เทียนฤกษ์ โรงเรียนวัดไร่ขิง (สุนทรอุทิศ) กล่าวว่า รูปแบบการสอนของโรงเรียนนั้นเน้น การปลูกฝังการพัฒนาสมองในรูปแบบขอกการเล่นเกมให้เกิดการเรียนรู้ และการออกกำลังกาย นอกจากนี้ คุณครูประภารัตน์ยังแนะนำเพิ่มเติมว่าการที่จะสอนเด็กเล็กนั้นต้องใช้ระยะเวลาที่สั้น และสนุกสนาน เพราะเด็กในวัยนี้สมาธิสั้น อีกทั้งต้องเรียนรู้อุปนิสัยและพัฒนาการของเด็กแต่ละคน

“กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่ดีมาก ทำให้เด็กได้เปลี่ยนบรรยากาศและการเรียนรู้จากรูปแบบเดิม ได้รับการเสริมสร้างทักษะในด้านต่างๆ และรูปแบบอื่นมากขึ้น ได้เรียนรู้การปรับตัวเข้ากับพี่ๆ ทีมงาน คนแปลกหน้าและสังคมใหม่ เพื่อให้เกิดความกล้ามากขึ้น อีกทั้งครูผู้สอนยังได้รับเทคนิควิธีในการสอนให้ง่ายและเข้าใจมากขึ้น“ คุณครูประภารัตน์ กล่าว

ดร.อรพินท์ สพโชคชัย ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมอัจฉริยภาพและนวัตกรรมการเรียนรู้ (สสอน.) สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่ากิจกรรม “คาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง” ต้องการกระตุ้นความสนใจของผู้ปกครอง คณะครูและบุคคลในสังคมมีส่วนช่วยกันเสริมสร้างการพัฒนาทางสมองของเด็ก ว่าจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กมีพัฒนาของประสาทสัมผัสทั้ง 5 ควบคู่กันไปของสมองทั้งสองข้างอย่างต่อเนื่อง “สำหรับโครงการนี้นั้นได้รับการตอบรับดีมาก ดังนั้นโครงการต่อไป สสอน. จะขยายผลกิจกรรมนี้เพื่อกระจายความรู้และสร้างต้นแบบออกสู่ส่วนภูมิภาคมากขึ้น” ดร.อรพินท์ กล่าว

ทั้งนี้พบกับคาราวานเพื่อนหนูคู่สมอง ครั้งต่อไปได้ที่ โรงเรียนสามัคคีบำรุง วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม 51, โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ วันศุกร์ที่ 5 กันยายน 51 ,โรงเรียนบุญเปโตร วันศุกร์ที่ 15 กันยายน 51 หรือหากหน่วยงานใดสนใจสอบถามเพิ่มเติมที่ http://www.igil.or.th

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ : อาภาภรณ์ กิจศิริ 081-5508412

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit