เปลี่ยนโฉมโรงละครภัทราวดีเธียร์เตอร์สู่โรงแรม เธียร์เตอร์ เร่งพัฒนาบูทีคโฮเทลเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ

เปิดใจศิษย์เก่าสถาบันบัณฑิตฯ ศศินทร์ นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการบริหารบูทีคโฮเทล “โรงแรมพุทธรักษา รีสอร์ท หัวหิน” เตรียมเปลี่ยนโฉมโรงละครภัทราวดีเธียร์เตอร์เป็นบูทีคโฮเทล “เธียร์เตอร์ โฮเทล” โรงแรมระดับ 4 ดาว เผยจุดขายสภาพแวดล้อมที่สวยงามและใกล้สถานที่ท่องเที่ยว เน้นความสวยงาม สะดวกสบาย และราคาไม่แพงเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งชาวไทยและต่างชาติ

คุณแวววดี ศรีไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ พุทธรักษา รีสอร์ท หัวหิน เปิดเผยถึงนโยบายการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า นอกจากโรงแรมที่หัวหินแล้วขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้าง เธียร์เตอร์ โฮเทล ซึ่งเป็น บูทีคโฮเทลระดับ 4 ดาว ขนาด 80 กว่าห้อง คาดว่าอีก 2 ปีจะเปิดให้บริการได้ จุดเด่นของโรงแรมดังกล่าวคือทำเลที่ตั้งเคยเป็นโรงละครภัทราวดีเธียร์เตอร์ มีสภาพแวดล้อมสวยงาม ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ออกแบบให้กลมกลืนกับพื้นที่โดยรอบ สไตล์อู่เรือผสมโมเดิร์น เพราะตั้งอยู่ใกล้กับอู่ต่อเรือ การออกแบบจึงต้องให้เข้ากับบรรยากาศโดยไม่แตกต่างจากสภาพแวดล้อมเดิม ให้ความสำคัญกับความสวยงาม สะดวกสบาย ที่สำคัญมีบริการครบวงจรและราคาไม่แพง สำหรับกลุ่มเป้าหมายของโรงแรมเธียร์เตอร์ โฮเทล เจาะตลาดทั้งคนไทยและต่างชาติ และด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยายาบาลศิริราช คาดว่าจะมีกลุ่มลูกค้าที่เป็น หมอ พยาบาล และกลุ่มผู้ที่เข้ามาฝึกอบรม สัมมนากับโรงพยาบาล รวมทั้งญาติผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดจะมีที่พักสะดวกสบาย นอกจากนี้ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หลายแห่งที่สวยงามอีกด้วย

สำหรับโครงการพุทธรักษา รีสอร์ท หัวหิน คุณแวววดี กล่าวว่า เป็นการบุกเบิกบูทีคโฮเทลในยุคแรก ๆ ของหัวหิน ต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามาพักรู้สึกเป็นเหมือนบ้านหลังที่สอง ออกแบบให้มีบรรยายกาศผ่อนคลาย มีความเป็นส่วนตัว เน้นการตกแต่งแบบเรียบ ๆ อย่างไรก็ตาม โรงแรมจะต้องให้ความสำคัญเรื่องการให้บริการ จึงเน้นการฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้ทุกคนใส่ใจและดูแลลูกค้าเหมือนเป็นเพื่อนเป็นญาติ 7 ปีที่ผ่านมาถือว่า พุทธรักษา รีสอร์ท ประสบความสำเร็จ เนื่องจากลูกค้าที่มาใช้บริการเกิดความประทับใจและบอกต่อ ทำให้มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างต่อเนื่อง

“นอกจากนี้การบริหารธุรกิจหลายอย่าง ทั้งวังหลัง พล่าซ่า โรงเรียนสุภัทรา ตลาดบางกอกน้อย ต้องให้ความสำคัญกับแนวทางในการบริหารธุรกิจ โดยเน้นทำทีละโครงการให้เสร็จเรียบร้อยและบริหารจัดการจนสามารถอยู่ได้ จึงจะเริ่มโครงการใหม่ต่อไป การบริหารงานส่วนสำคัญได้มาจากการศึกษาที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย (Sasin) ได้รับความรู้ที่นำมาใช้ทั้งในเรื่องการบริหาร การตลาด ไฟแนนซ์ ทำให้รู้ได้ว่าการบริหารของเรามาถูกทางหรือไม่อย่างไร รวมทั้งมีคอนเนคชั่นที่ดี อาจไม่ได้ช่วยเหลือกันทางด้านธุรกิจ แต่ให้คำปรึกษาที่ดีได้ นอกจากนี้ได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวให้ทำธุรกิจ โดยให้นึกถึงคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือ บุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับธุรกิจ เช่น พื้นที่ตลาดบางกอกน้อยสามารถนำมาทำธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งได้ผลประกอบการดีกว่า แต่ตลาดตั้งมายาวนานกว่า 60 ปี หากเลิกทำจะกระทบกับอาชีพของคนค้าขายจำนวนมาก จึงต้องทำต่อแต่มีการรีโนเวทใหม่เพื่อให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาด” คุณแวววดี กล่าวและเปิดเผย ถึงเป้าหมายในการทำงานว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องมีความเป็นไปได้ เมื่อทำแล้วต้องทำให้ได้และดีด้วย ควรศึกษาว่าพื้นที่ไหนเหมาะที่จะทำธุรกิจอะไร ที่สำคัญจะให้ความสำคัญกับการบริหารบุคลากร พนักงานทุกคนมีความสำคัญ ดังนั้น ควรนึกถึงใจเค้าใจเราจะทำให้ทุกคนทำงานด้วยใจ จ้างด้วยเงินเดือนอย่างเดียวที่ไหนก็มีให้ทั้งนั้น การอยู่ด้วยกันแบบครอบครัว เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารบุคลากรให้มีความสุขในการทำงาน ที่ผ่านมามีพนักงานจำนวนหนึ่งทำงานกันมากว่า 15 ปีแล้ว การที่ธุรกิจประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งมาจากสิ่งนี้

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net