ไม่ว่าใครก็คงต้องเคยผ่านประสบการณ์ “เป็นรอยสิวไม่หายสักที” มาก่อน รอยสิวเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยากหลังการเกิดสิว เนื่องจากเมื่อสิวหายไปแล้ว ผิวหนังที่เคยอักเสบหรือถูกกระตุ้นจะทิ้งร่องรอยไว้ ซึ่งอาจทำให้ผิวหน้าดูไม่สม่ำเสมอและทำให้หลายคนเสียความมั่นใจ ดังนั้น เรามาทำความรู้จักประเภทของรอยสิวและวิธีจัดการอย่างถูกต้องกัน เพื่อช่วยให้ผิวกลับมาเรียบเนียนเหมือนเดิมให้มากที่สุด!
รอยสิวสามารถแบ่งได้หลายแบบตามลักษณะและการเกิด ซึ่งแต่ละแบบมีที่มาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น การอักเสบ การบีบหรือแกะสิว จนถึงการสร้างเซลล์เม็ดสีเมลานินที่เกิดขึ้นหลังการรักษาผิดวิธี มาดูกันว่ามีประเภทใดบ้างและจะดูแลอย่างไรให้เหมาะสม
รอยดำจากสิวเกิดจากการที่ผิวได้รับการกระทบกระเทือนหรืออักเสบ ทำให้เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ผลิตเม็ดสีถูกกระตุ้นจนผลิตเมลานินมากขึ้น รอยดำจะมีลักษณะเป็นจุดสีเข้ม ตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ ซึ่งพบได้บ่อยในคนที่มีสีผิวเข้ม รอยดำนี้สามารถหายไปเองตามธรรมชาติได้ภายใน 4-6 เดือน แต่ถ้าต้องการให้หายเร็วขึ้น การรักษาด้วยวิธีเฉพาะเช่น การเลเซอร์รอยสิว สามารถช่วยได้
รอยแดงเป็นรอยที่เกิดจากการอักเสบของสิว โดยเฉพาะสิวอุดตันและสิวอักเสบ เมื่อผิวได้รับการกระตุ้นให้ฟื้นฟูเลือดจะไหลเวียนเพิ่มขึ้นทำให้เส้นเลือดขยายตัว และเกิดเป็นรอยแดง รอยแดงนี้พบได้บ่อยในคนที่มีผิวขาว และหายไปได้เองในระยะเวลา 2-4 เดือน
หลุมสิวเกิดจากการอักเสบที่รุนแรง เช่น สิวหัวช้าง ที่ทำให้คอลลาเจนในผิวหนังเสียหาย หลุมสิวมีหลายประเภท เช่น Rolling Scar ที่เป็นแอ่งตื้น ๆ, Boxcar Scar ที่มีลักษณะเป็นหลุมสี่เหลี่ยมลึกปานกลาง และ Ice Pick Scar ที่เป็นหลุมลึกและแคบ การรักษาหลุมสิวจำเป็นต้องใช้วิธีพิเศษ เช่น การสร้างเซลล์ผิวใหม่ เป็นต้น
วิธีรักษารอยสิวมีหลายแบบ ตั้งแต่การใช้ครีมบำรุง ไปจนถึงการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคน
การทาครีมบำรุงผิวเป็นวิธีเบื้องต้นที่สามารถช่วยให้รอยสิวจางลงได้ เนื่องจากครีมบางชนิดมีส่วนผสมช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส ลดรอยดำและรอยแดงได้ นอกจากนี้ ครีมที่มีส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิวก็สามารถช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนได้เช่นกัน
การพอกหน้าด้วยสมุนไพร หรือใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวสามารถช่วยลดรอยดำและรอยแดงได้ดี โดยการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสียหายจากสิวออกไป และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ซึ่งช่วยให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหารอยสิวที่ลึก เช่น หลุมสิว การปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการรักษาอย่างตรงจุดเป็นทางเลือกที่ดี เช่น โปรแกรมสร้างเซลล์ผิวใหม่ DAS ที่สามารถช่วยฟื้นฟูรอยสิวให้จางลงได้เร็วขึ้นด้วยการใช้เซลล์ผิวใหม่ที่สร้างขึ้นเองจากร่างกาย ช่วยให้รอยแดงและรอยดำลดลง
จะเห็นได้ว่ารอยสิวแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ รอยดำ รอยแดง และหลุมสิว ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกันหากกำลังมองหาคลินิกรักษารอยสิว แต่ไม่รู้ว่าจะรักษาที่ไหนดี Dr. NAT Clinic เป็นคลินิกที่มีชื่อเสียงด้านการรักษาสิวและรอยสิว โดยที่คลินิกจะใช้โปรแกรมรักษารอยสิวด้วยเทคโนโลยี DAS ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญในด้านการรักษารอยสิวและพร้อมให้คำปรึกษาอย่างละเอียด ปรับแต่งการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล