ธนาคารกรุงเทพ ขานรับธปท. ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ขยายเวลาแพ็กเกจเดิมถึง 30 มิ.ย. 64

22 Jan 2021

ธนาคารกรุงเทพ ขานรับธปท. ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ขยายเวลาแพ็กเกจเดิมถึง 30 มิ.ย. 64 พร้อมดูแลลูกค้าทุกกลุ่มเพื่อช่วยฝ่าวิกฤติ ย้ำภาพ 'เพื่อนคู่คิด' พร้อมเคียงข้างทุกมิติ จับมือกันจนลุกขึ้นยืนอย่างแข็งแกร่ง

ธนาคารกรุงเทพ ขานรับธปท. ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ขยายเวลาแพ็กเกจเดิมถึง 30 มิ.ย. 64

ธนาคารกรุงเทพ ขานรับนโยบาย ธปท. ต่ออายุมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย ผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ โดยขยายระยะเวลาขอรับความช่วยเหลือไปอีก 6 เดือน ถึง 30 มิถุนายน 2564 ครอบคลุมผลิตภัณฑ์สินเชื่อทุกประเภท ผ่านหลากหลายมาตรการ ทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขยายวงเงิน พักชำระหนี้ จนถึงปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อช่วยลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างดีที่สุด ย้ำจุดยืน 'เพื่อนคู่คิด' เคียงข้างลูกค้าใกล้ชิด ดูแลทุกมิติ หนุนลูกค้าปรับตัวร่วมกัน จนลุกขึ้นยืนอย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง

นายสุวรรณ แทนสถิตย์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศขยายระยะเวลามาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ ซึ่งขยายขอบเขตการแพร่ระบาดออกไปเป็นวงกว้างหลายพื้นที่ ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ธนาคารกรุงเทพเข้าใจถึงสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังเผชิญในขณะนี้ จึงได้ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ด้วยการขยายระยะเวลาขอรับความช่วยเหลือต่อไปอีก 6 เดือน จนถึง 30 มิถุนายน 2564 จากเดิมสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2563

ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อย จะครอบคลุมลูกค้าบัตรเครดิต ลูกค้าสินเชื่อบุคคลภายใต้การกำกับ ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน เพื่อช่วยลูกค้าลดความวิตกและกังวลใจจากผลกระทบดังกล่าว โดยมีรายละเอียดของมาตรการเพื่อให้ลูกค้าแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ดังนี้

1.) สินเชื่อบัตรเครดิต

  • เปลี่ยนประเภทเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 12% ต่อปี
    นอกเหนือจากมาตรการข้างต้น ธนาคารได้มีการปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำให้กับลูกค้าทุกรายโดยอัตโนมัติตั้งแต่ เม.ย. 63 จนถึงปี 2565 และปรับลดเพดานดอกเบี้ยตั้งแต่ ส.ค. 2563 รวมถึงการพิจารณาขยายวงเงินให้แก่ลูกค้าที่มีความจำเป็นเป็นการชั่วคราว

2.) สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ
ประเภทสินเชื่อที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)

  • ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
  • เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (Term Loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี

ประเภทสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)

  • ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี

3.) สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่อที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน

  • เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน หรือ
  • เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) เป็นระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ
  • ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้

รวมถึง ลูกค้าสามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ด้วยการรวมหนี้ (Debt Consolidation) โดยนำสินเชื่อที่อยู่อาศัย บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ซึ่งอยู่กับธนาคารกรุงเทพ มารวมเป็นสินเชื่อเดียวกันเพื่อลดภาระทางการเงิน

ธนาคารจะเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้า โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารจะพิจารณาปรับและผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้เพิ่มเติมเป็นรายกรณี เพื่อช่วยเหลือลูกค้าและบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน

นอกจากการให้ความช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยข้างต้นแล้ว ธนาคารยังคงช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในเชิงรุกอย่างทันเหตุการณ์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและเสริมสภาพคล่อง เช่น การให้ด้วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan ธปท.) อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ระยะเวลา 2 ปี โดยรัฐบาลจ่ายดอกเบี้ยแทนลูกค้า 6 เดือนแรก

"ธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ "เพื่อนคู่คิด" เข้าใจถึงผลกระทบจากสถานการณ์ในขณะนี้ และพร้อมอยู่เคียงข้างลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมเผชิญและก้าวผ่านทุกวิกฤติไปด้วยกัน ซึ่งธนาคารได้พยายามช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าในทุกมิติ ขณะเดียวกัน ธนาคารยังพยายามสนับสนุนให้ลูกค้าปรับตัวด้วยการหาตลาดใหม่และช่องทางการขายเพิ่มเติม ตลอดจนการอบรมสัมมนาความรู้ใหม่ให้แก่ลูกค้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเริ่มฟื้นตัวเองและกิจการกลับมาได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงการปรับตัวหรือขยายธุรกิจเข้าสู่ความท้าทายใหม่ที่สอดคล้องกับเทรนด์ของโลกในอนาคต (Future World) ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ลูกค้ากลับมาลุกขึ้นยืนใหม่ได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง โดยมีธนาคารกรุงเทพ เป็น "เพื่อนคู่คิด" ที่พร้อมเคียงข้างไปตลอด" นายสุวรรณ กล่าว

สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ https://www.bangkokbank.com/COVID19-Update หรือ QR Code ตามแนบ หรือสาขาธนาคาร หรือสำนักธุรกิจของธนาคาร ขณะเดียวกัน ลูกค้าที่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงหรือมีความสามารถผ่อนชำระสินเชื่อได้เช่นเดิม ยังคงสามารถใช้บริการและชำระสินเชื่อต่างๆ ได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ลูกค้าทุกท่านสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากสื่อประชาสัมพันธ์ของธนาคารกรุงเทพทุกช่องทาง ได้แก่ www.bangkokbank.com, Bangkok Bank Line Official หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit