มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปปี 2563

02 Mar 2021

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น แถลงอย่างเป็นทางการว่า มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ ปลั๊กอินไฮบริด (พีเอชอีวี) ยังคงตอกย้ำการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากถึง 26,673 คัน ในปี 2563 ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ผู้นำรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่ขายดีที่สุดในยุโรปปี 2563

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ถือเป็นรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพที่สำคัญและแสดงถึงความเชี่ยวชาญของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า ยานยนต์อเนกประสงค์ และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ส่งผลให้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล มีความต่อเนื่องและเงียบ พร้อมอัตราการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยมและทรงพลัง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีจำหน่ายแล้วกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกมากถึง 270,000 คัน เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2563 ที่ผ่านมา

"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าจำนวนมากในยุโรป ซึ่งลูกค้าต่างให้ความสำคัญและใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ควบคู่กับความนิยมของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว" มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น กล่าว "ทั้งนี้ภารกิจของเรา คือ การคิดค้นยานยนต์ที่น่าตื่นเต้นและมีความปลอดภัยเพื่อส่งมอบให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ครบครันด้วยเทคโนโลยีที่ใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมมุ่งมั่นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน โดยเราได้ตั้งเป้าหมายไว้ในปี 2573 ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนยอดจำหน่ายของยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ 50 เปอร์เซ็นต์จากยอดจำหน่ายรวมทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และ รถยนต์แบบไฮบริด (HEV) อีกด้วย"

โดยเมื่อเร็วๆนี้ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ถูกผลิตขึ้นในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ ศูนย์การผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดย มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ที่ผลิตขึ้นภายในประเทศไทยนี้ ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่1 ธันวาคม 2563 ที่งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 หรือ ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์เอ็กซ์โป 2020 พร้อมทั้งยังได้จัดพิธีฉลองการผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คันแรกในประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ณ สนามทดสอบรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถขับขี่ได้ทั้งในโหมดไฟฟ้า (EV) สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และยังสามารถเป็นรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) สำหรับการเดินทางระยะไกล พร้อมสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟฟ้า มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศและทุกสภาพถนน

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดไม่เกิน 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถที่มีอยู่ 2 จุด เพื่อให้สามารถสัมผัสกับไลฟ์สไตล์กลางแจ้งรูปแบบใหม่ และยังสามารถเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าฉุกเฉินเพราะ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เอง และยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ที่พักอาศัยด้วยเทคโนโลยีระบบพลังงานแบบ Vehicle-to-Home (V2H) ได้นานถึง 10 วัน(1) สำหรับครัวเรือนทั่วไป โดยแบตเตอรี่ต้องถูกชาร์จไฟเต็มและมีน้ำมันเต็มถัง

หลังประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี พร้อมเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมทั้งจากลูกค้าและผู้สื่อข่าวสายรถยนต์ ต้องขอขอบคุณเทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่มีเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสถานการณ์ โดยปัจจุบัน มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มียอดจองแล้วมากกว่า 200 คัน โดยบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการส่งมอบ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ให้แก่ลูกค้าตั้งแต่เดือนมกราคม ที่ผ่านมา

มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี มีทั้งหมด 2 รุ่น และมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond(2), สีเงิน Sterling Silver และสีดำ Jet Black Mica โดยรุ่นเริ่มต้น จีที มีราคาจำหน่ายที่ 1,640,000 บาท และรุ่น จีที พรีเมียม มีราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น ลูกค้าสามารถมั่นใจและหมดความกังวลในด้านค่าบำรุงรักษาด้วยแพ็กเกจ วอรี่ ฟรี (worry-free) ประกอบด้วย ฟรี รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร(3) ฟรี มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ 5 ปี, ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี รับประกันคุณภาพพร้อมค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี

และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองรถภายในวันที่ 31 มีนาคม 2564 และรับรถภายในวันที่ 30 เมษายน 2564 รับทันที ค่าสนับสนุนการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้าที่บ้านรวมมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท(4)

(1) ปริมาณและระยะเวลาการใช้กระแสไฟฟ้าคำนวณโดยสมมติฐานของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น โดยปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้าในครัวเรือนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10kWh / วัน ซึ่งไม่นับรวมกับปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ผลิตขึ้นจากระบบ V2H โดยปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้อาจแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่
(2) ชำระเพิ่ม 15,000 บาท สำหรับ รุ่นสีขาว White Diamond
(3) ระยะเวลาการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน*
*บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด รับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ส่งมอบรถยนต์ให้แก่ลูกค้าตามใบส่งมอบรถยนต์หรือ ระยะทางเลขไมล์160,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน การรับประกันครอบคลุมถึงค่าแรงและค่าอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ลูกค้าสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการและผ่านมาตรฐานการซ่อมบำรุงรถ Mitsubishi Outlander PHEV ทั้งนี้ การรับประกันครอบคลุมเฉพาะความบกพร่องที่เกิดจากการผลิตและภายใต้การใช้งานตามปกติเท่านั้น โปรดศึกษารายละเอียดการรับประกันเพิ่มเติมใน Outlander Customer Quick Guide หรือ สมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ
(4) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

เกี่ยวกับ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การผลิตที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส และยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิ ไปยังกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีคุณภาพสูง เพียบพร้อมด้วยสมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบายและเทคโนโลยีเพื่อความพึงพอใจของลูกค้า ในปี พ.ศ. 2561 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยฉลองการผลิตรถยนต์ครบ 5 ล้านคัน และได้เปิดทำการ สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างเป็นทางการที่ จ. ปทุมธานี โดยผลิตภัณฑ์ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยประกอบด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มิตซูบิชิ แอททราจ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส และ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพสูงสุด มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทยใช้สนามทดสอบสมรรถนะในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรีในการประเมินผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบและการพัฒนารถต้นแบบไปจนถึงการทดลองผลิตและการผลิตเพื่อจัดจำหน่าย ซึ่งสร้างความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับรถยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุด