เนสท์เล่ชูกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ส่งแคมเปญ "เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ ทุกความใส่ใจเปลี่ยนโลกได้" ชวนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างอนาคตปลอดขยะ

15 Mar 2021

เนสท์เล่ ผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มระดับโลก เดินหน้ากลยุทธ์ด้านความยั่งยืน เพื่อสร้างอนาคตปลอดขยะ ชวนคนไทยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อโลกและคนรุ่นถัดไป ด้วยการส่งแคมเปญ "เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ ทุกความใส่ใจเปลี่ยนโลกได้" (Every Little Act Matters) จุดประกายความคิดและสร้างแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะเนสท์เล่เชื่อว่าทุกคนล้วนมีบทบาทในการดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยกันสร้างโลกที่น่าอยู่ส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง โดยจัดสรรงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ตั้งเป้าเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 15 ล้านคนทั่วประเทศ

เนสท์เล่ชูกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ส่งแคมเปญ "เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่  ทุกความใส่ใจเปลี่ยนโลกได้" ชวนคนไทยเปลี่ยนพฤติกรรม สร้างอนาคตปลอดขยะ

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า "การรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกเป็นความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ เนสท์เล่เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว และมีพันธกิจที่มุ่งมั่นในการหาแนวทางเพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์ นำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่ (Reduce, Reuse, Recycle) เพราะเป้าหมายหลักของเนสท์เล่ระดับโลกคือการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ตลอดจนลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ลง 1 ใน 3 ภายในปี 2568 เพื่อนำไปสู่อนาคตที่ปลอดขยะ โดยไม่มีบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่หลุดลอยไปสู่แหล่งน้ำและกลายเป็นขยะฝังกลบ ที่ผ่านมาสำหรับเนสท์เล่ ประเทศไทย เราได้คิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ 89% ของเนสท์เล่สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้แล้ว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้ผู้บริโภคสามารถร่วมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อโลกไปพร้อมกับเนสท์เล่ โดยเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันอย่างการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก"

จากผลการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของนีลเส็น (Nielsen) และ กันตาร์ (Kantar) พบว่า คนไทย 81% บอกว่าตนเองพยายามเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักว่าพฤติกรรมการบริโภคของตนเองส่งผลต่อความยั่งยืน แต่ยังไม่สามารถปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตให้เป็นสายกรีนมากนัก จึงมองหาผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยให้การปรับพฤติกรรมรักษ์โลกทำได้ง่ายขึ้นในราคาที่เข้าถึงได้

ด้วยเหตุนี้ เนสท์เล่จึงขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในปี 2564 โดยได้จัดแคมเปญ "เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ ทุกความใส่ใจเปลี่ยนโลกได้ (Every Little Act Matters)" ที่ถ่ายทอดเป็นวิดีโอ บอกเล่าให้ทุกคนเห็นว่าการช่วยกันสร้างความยั่งยืนให้กับโลกใบนี้ไม่ได้ยากเลย พร้อมแสดงถึงความตั้งใจของเนสท์เล่ที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติก ลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังช่วยอนุรักษ์ชีวิตของสัตว์ทะเล และลดพื้นที่ฝังกลบขยะอีกด้วย พร้อมทั้งยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคเริ่มทำสิ่งเล็ก ๆ ในทุก ๆ วัน เพื่อโลกที่ยั่งยืนและอนาคตที่ดีของคนรุ่นถัดไป เพราะเนสท์เล่เชื่อในพลังเล็ก ๆ ที่จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ สามารถรับชมวิดีโอเปิดตัวแคมเปญได้ที่ช่องทางยูทูบของเนสท์เล่ไทยแลนด์ ที่ https://bit.ly/3bGXFGu และสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://bit.ly/3ck9S2O

เนสท์เล่เป็นบริษัทแรกในการริเริ่มบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เช่น ผลิตภัณฑ์ไมโล ยูเอชที ที่เปลี่ยนมาใช้หลอดกระดาษผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ ไอศกรีม ที่ได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์เป็นซองไอศกรีมกระดาษ เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเปลี่ยนไปใช้กระป๋องอะลูมิเนียมแทนกระป๋องเหล็ก และเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ที่ถอดสีฟ้าออกจากขวดน้ำดื่ม เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกทั้งหมดนี้จะทำให้ในปี 2564 สามารถลดการใช้หลอดพลาสติกลงได้ 500 ล้านหลอด ลดปริมาณพลาสติกผลิตใหม่จากขวดน้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ได้ 370 ตัน ตลอดจนลดปริมาณซองพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ไอศกรีมได้ 28 ตัน

"เราหวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยจุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แม้เป็นเรื่องเล็กน้อยใกล้ตัว ก็ร่วมมือกันเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่ขึ้นกว่าเดิมเพื่อวันนี้และคนรุ่นหลัง" นายวิคเตอร์ กล่าวทิ้งท้าย