สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับ ภาคคีเครือข่ายสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมโยงเกษตรกรกับสตาร์ทด้านเกษตรสู่การเป็นเกษตรกรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ "AgTech Connext" คัดเลือก 15 สตาร์ทอัพด้านเกษตร 5 กลุ่ม ได้แก่ สตาร์ทอัพกลุ่มปศุสัตว์ สตาร์ทอัพด้านสัตว์เศรษฐกิจใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยม สตาร์ทอัพสำหรับในกลุ่มการปลูกผัก พืชไร่ พืชสวน สตาร์ทอัพด้านการปลูกมันสำปะหลัง แพลตฟอร์มตลาดในการส่งสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค ร้านค้า โรงงานผลิต ที่มีเทคโนโลยีพร้อมใช้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ลดความเสียหาย และเพิ่มช่องทางจำหน่ายแก่สินค้าเกษตร โดยเกษตรกรที่สนใจสามารถร่วมทดลองใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่เหมาะสมกับการทำเกษตรแต่ละรูปแบบสามารถเช้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์ "AgTech Connext" ในวันที่ 8 -9 มิถุนายน 2564
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม NIA กล่าวว่า จากการสำรวจระบบนิเวศสตาร์ทอัพด้านเกษตรในประเทศไทย หนึ่งอุปสรรคที่สำคัญและยังเป็นช่องว่าง คือ เกษตรกรไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทั้งการรับรู้และความไม่เข้าใจเทคโนโลยีหรือบริการ ขาดการเชื่อมโยงให้รู้จักผลิตภัณฑ์หรือบริการของสตาร์ทอัพ และเกษตรกรบางส่วนยังมีความกังวลถึงความคุ้มค่าในการใช้เทคโนโลยี ความรู้ และทักษะในการใช้งาน ประกอบกับแรงงานในภาคการเกษตรมีอายุเฉลี่ยที่สูงขึ้น จึงต้องเร่งสร้างโอกาสการเข้าถึงและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคการเกษตรของไทยให้มากขึ้น ดังนั้น NIA จึงได้ริเริ่มและพัฒนาแพลตฟอร์ม "AgTech Connext" เพื่อเป็นเสมือนสะพานเชื่อมให้สตาร์ทอัพด้านเกษตรได้มีโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้กับกลุ่มเกษตรกรที่พร้อมเปิดใจรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับธุรกิจการเกษตรของตนเอง และสามารถกระจายต่อไปในวงกว้างมากขึ้น พร้อมทั้งร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน อาทิกรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด และ กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพได้เรียนรู้การทำเกษตรในรูปต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น สำหรับ 15 สตาร์ทอัพด้านเกษตรกลุ่มแรกที่ผ่านการคัดเลือกครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการฟาร์มด้วยอุปกรณ์เซนเซอร์ และการควบคุมด้วยเทคโนโลยีที่แม่นยำ การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่จะช่วยยืดอายุผลผลิตก่อนถึงมือผู้บริโภค และระบบตลาดที่จะส่งสินค้าเกษตรให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างตรงความต้องการ ได้แก่
- แพลตฟอร์มตลาดในการส่งสินค้าเกษตรสู่ผู้บริโภค ร้านค้า โรงงานผลิต ได้แก่ เฮิร์ป สตาร์ทเตอร์ แพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจและสร้างนวัตกรรมตลาดสินค้าเพื่อชุมชนผ่านการซื้อสินค้าจากเกษตรและนำมาแปรรูป รวมถึงการสร้างช่องทางการขายใหม่ๆ ให้แก่เกษตรกร และการถ่ายทอดเรื่องราวอัตลักษณ์ของสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมีระบบ รวมไปถึง ฟาร์มโตะ ซึ่งเป็นแพลต์ฟอร์มออนไลน์สำหรับการกระจายสินค้าเกษตร โดยมีระบบการเชื่อมโยงเกษตรกรและผู้บริโภคเข้าหากันผ่านการขายผลผลิตเกษตรรูปแบบใหม่บนตลาดออนไลน์ และ แคสปี้ แพลต์ฟอร์มซื้อขายสินค้าเกษตรในรูปแบบออนไลน์ที่มีสินค้ามากมายที่ผ่านการคัดสรรเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่นผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยมุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ ภาษา
ดร. กริชผกา กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามสำหรับเกษตรกรทั่วประเทศไทยที่ทำเกษตรกรรมในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลูกพืช ปศุสัตว์ กลุ่มประมง กลุ่มเลี้ยงจิ้งหรีด กลุ่มปลูกมันสำปะหลัง ที่ต้องการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน ลดแรงงาน สามารถร่วมทดลองใช้สินค้า เทคโนโลยี ด้านต่าง ๆ ซึ่งการเจ้าร่วมทดลองใช้สินค้าในครั้งนี้ เกษตรกรจะได้พบกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากมายที่จะช่วยตอบโจทย์การทำเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเกษตรยังจะได้เลือกลองเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการทำเกษตรของตนเองมากที่สุด ซึ่ง ภายในงานยังมีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการนำเอาเทคโนโลยีไปใช้กับการทำเกษตรร่วมด้วย นอกจากสิ่งที่เกษตรกรจะได้ร่วมทดลองใช้เทคโนโลยีแล้วโครงการดังกล่าวยังช่วยให้สตาร์ทอัพด้านเกษตรได้รับข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมด้วย สำหรับเกษตรกรที่สนใจ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวในรูปแบบออนไลน์ในวันที่ 8-9 มิถุนายน 2564 ได้ที่ https://forms.gle/ncRXtL1DA9Cob3mKA หรือสอบถามเพิ่มเติม โทรศัพท์ 02-017 5555 ต่อ 552 - มือถือ 098-257 0888 - อีเมล [email protected]
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit