ARB วางศิลาฤกษ์ เตรียมเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ขยายฐานการผลิต ในนิคมอุตสาหกรรม ดับเบิลยูเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง)

15 Jun 2021

เมื่อเร็ว ๆ นี้  ARB ประเทศไทย ในฐานะผู้นำตลาดอุปกรณ์แต่งรถออฟโร้ด 4x4 ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ โรงงานแห่งที่ 4 ณ  นิคมอุตสาหกรรมดับเบิลยูเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท จ.ระยอง เพื่อรองรับการขยายฐานการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ ARB ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดโลก

ARB วางศิลาฤกษ์ เตรียมเปิดโรงงานแห่งที่ 4 ขยายฐานการผลิต ในนิคมอุตสาหกรรม ดับเบิลยูเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง)

โรงงานแห่งที่ 4 นี้ จะดำเนินการก่อสร้างบนพื้นที่ 37 ไร่ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน ธันวาคม ปี 2565 เพื่อรองรับฐานการผลิต อุปกรณ์แต่งรถออฟโร้ด อาทิ ผลิตภัณฑ์กันชนแบบ OEM ภายใต้แบรนด์ผู้ผลิตรถกระบะ ผลิตภัณฑ์กันชนภายใต้แบรนด์ของ ARB รุ่นต่าง ๆ อาทิ ซัมมิทบาร์ เดอร์ลักซ์บาร์ ซาฮาร่าบาร์  อัลลอยบาร์ และอื่น ๆ อุปกรณ์กันกระแทกใต้ท้องรถ (UVP) หรือกันแคร้ง ผลิตภัณฑ์ ARB Recovery ผลิตภัณฑ์หลังคารถกระบะ ไลน์พ่นสีเพาว์เดอร์โค้ด ที่มีความทันสมัย และประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นต้น

ARB Corporation มีฐานโรงงานผลิตสินค้า อยู่ 2 แห่งในโลก คือ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และจังหวัดระยองประเทศไทย โดยโรงงานในประเทศไทยดำเนินการผลิตภายใต้มาตรฐาน และเทคโนโลยีเดียวกันกับที่ออสเตรเลีย เหตุผลในการก่อตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย อันเนื่องมาจากประเทศไทยเป็นเสมือนฮับของรถกระบะ มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางที่สะดวกในการกระจายสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ประกอบกับฝีมือของช่างไทย มีคุณภาพสูงได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล  

ปัจจุบัน อันเนื่องมาจากยอดสั่งผลิตสินค้าที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า จากการสั่งซื้อสินค้าทั่วโลก ส่งผลให้โรงงานแห่งที่ 1 และ โรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นฐานการผลิตหลักในประเทศไทย ได้ลงทุนเครื่องจักรจนเต็มพื้นที่ และดำเนินการผลิตอย่างเต็มศักยภาพแล้ว ทางผู้บริหาร ARB จึงได้ตัดสินใจ สร้างโรงงานแห่งที่ 4 ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดของ ARB ประเทศไทย หลังจากผลิตเสร็จเรียบร้อย สินค้าจะถูกนำส่งไปยังโรงงานแห่งที่3 ซึ่งเป็นคลังสินค้า หรือ Global warehouse สำหรับนำสินค้าส่งออกไปยัง ARB สำนักงานใหญ่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ ยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แอฟริกา ตะวันออกกลาง และ เอเชียแปซิฟิก เพื่อรองรับการเติบโตของอุปกรณ์แต่งรถออฟโร้ดในตลาดโลก