STARK ติดโผเข้าคำนวณ SETCLMV ตอกย้ำเชื่อมั่น-สะท้อนผลสำเร็จลงทุนเวียดนาม

22 Jun 2021

บมจ. สตาร์คอร์เปอเรชั่น (STARK)ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์สำหรับคำนวณดัชนี SETCLMV มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ ฟากซีอีโอ "ประกรณ์ เมฆจำเริญ" ระบุการได้รับคัดเลือกในครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จของการรุกขยายลงทุนในเวียดนาม ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นที่รู้จักระดับสากลมากขึ้น

STARK ติดโผเข้าคำนวณ SETCLMV ตอกย้ำเชื่อมั่น-สะท้อนผลสำเร็จลงทุนเวียดนาม

นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เปิดเผยว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SETCLMV ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2564 ซึ่ง STARK เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับคัดเลือกในครั้งนี้

สำหรับดัชนี SETCLMV หรือ SET CLMV Exposure Index เป็นดัชนีที่รวบรวมบริษัทจดทะเบียนของไทย ที่มีการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม) ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดดเด่น คัดเลือกด้วยหลักเกณฑ์จากสัดส่วนรายได้จาก CLMV ต่อรายได้รวมของบริษัทอย่างน้อย 10% มูลค่ารายได้จาก CLMV อย่างน้อย 100 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอย่างน้อย 5,000 ล้านบาท และมีสัดส่วนการกระจายหุ้นอย่างน้อย 20%

"การที่หุ้น STARK ได้เข้าคำนวณในดัชนี SETCLMV จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน และทำให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจะช่วยสนับสนุนโอกาสการขยายธุรกิจในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ หากผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV สามารถลงทุนผ่านหุ้นไทยที่มีสภาพคล่อง และลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย ดัชนี SETCLMV จึงถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ลงทุน" นายประกกรณ์กล่าวในที่สุด

ทั้งนี้ STARK มีการลงทุนในเวียดนามตั้งแต่กลางปี 2562 และในปี 2563 มีผลประกอบการที่สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์จากการรับรู้รายได้การเข้าลงทุนในประเทศเวียดนาม และในปี 2564 มีนโยบายการเพิ่มความเร็วกำลังการผลิตของโรงงานที่ประเทศเวียดนามจากเดิมที่ใช้อยู่เพียง 40% จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลทำให้ บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโต 15-20% และมั่นใจว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง อีกทั้งอุตสาหกรรมไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอีกด้วย