'SMD' เด้งรับดีมานต์เครื่อง เออีดี (AED) หนุนออเดอร์เพิ่มไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หลังรัฐฯ ออกกฏให้อาคารสูงติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ ช่วยชีวิตฉุกเฉิน

15 Jul 2021

บมจ.เซนต์เมด (SMD) ผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิตรับลูกมาตรการภาครัฐฯ ออกกฎให้อาคารสูงติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ หรือ AED (Automated External Defibrillator) เพิ่มศักยภาพการช่วยชีวิตฉุกเฉินภาคประชาชน หนุนความต้องการซื้อและติดตั้งใช้งานจากภาคเอกชน คาดว่าจะเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท รุกสร้างการเติบโตในระยะยาว

'SMD' เด้งรับดีมานต์เครื่อง เออีดี (AED) หนุนออเดอร์เพิ่มไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท หลังรัฐฯ ออกกฏให้อาคารสูงติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ ช่วยชีวิตฉุกเฉิน

ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ผู้ดำเนินจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิต เปิดเผยว่า อีกก้าวสำคัญหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานการช่วยชีวิตฉุกเฉินภาคประชาชนในประเทศไทย เมื่อกระทรวงมหาดไทยประกาศกฎกระทรวง กำหนดให้อาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษที่เป็นอาคารสาธารณะ ต้องติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ หรือ AED (Automated External Defibrillator) และต้องมีพื้นที่สำหรับรถฉุกเฉิน รวมถึงต้องจัดให้มีลิฟท์ที่มีขนาดสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินได้ โดยจะมีผลบังคับใช้นับจากวันที่ประกาศ (4 มิ.ย.64) ในอีก 180 วัน

สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยในปัจจุบัน SMD ได้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือประเภทนี้ให้แก่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนอยู่แล้ว โดยประเมินว่าเมื่อภาครัฐมีมาตรการดังกล่าวข้างต้น จะส่งผลดีต่อยอดคำสั่งซื้อของ SMD ให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีเข้ามาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

"มาตรการภาครัฐครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยชีวิตฉุกเฉินภาคประชาชนของประเทศไทย เนื่องจากในปัจจุบันประเทศไทยมี AED ติดตั้งใช้งานกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งในโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน โรงงาน โรงแรม โรงเรียน สถานที่ราชการและเอกชนอื่นๆ รวมกันแล้วประมาณ 30,000 เครื่อง แต่เมื่อเทียบกับประเทศญี่ปุ่นที่มีการติดตั้งเครื่อง AED ในพื้นที่สาธารณะจำนวน 600,000 เครื่อง และเกาหลีติดตั้งแล้วประมาณ 200,000 เครื่อง ก็ยังถือว่าประเทศไทยมีเครื่อง AED น้อยมาก ซึ่งหากกฎหมายดังกล่าวบังคับใช้ คาดว่าประเทศไทยจะมี AED ใกล้เคียงกับประเทศเกาหลี ภายใน 5 ปีข้างหน้า จะทำให้ประชาชนที่ประสบเหตุหัวใจหยุดเต้นเฉียบหลันนอกโรงพยาบาลมีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้น ใกล้เคียงกับนานาอารยประเทศในทวีปเอเชีย" ดร.วิโรจน์ กล่าว