ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) เริ่มซื้อขาย 23 ก.ค. นี้

22 Jul 2021

บมจ. สยามเทคนิคคอนกรีต ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรง และให้บริการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการตอกเสาเข็ม พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 23 ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,015.5 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "STECH"

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. สยามเทคนิคคอนกรีต (STECH) เริ่มซื้อขาย 23 ก.ค. นี้

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. สยามเทคนิคคอนกรีต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "STECH" ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564 นี้

STECH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงภายใต้เครื่องหมายการค้า STEC ได้แก่ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง เสาไฟฟ้าคอนกรีตอัดแรงและผลิตภัณฑ์ประกอบเสาไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์คานสะพานและพื้นสะพาน เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงโดยใช้แรงเหวี่ยง โดยให้บริการแก่ลูกค้าทั้งภาครัฐบาลและเอกชน พร้อมกับการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร เช่น บริการขนส่งและตอกเสาเข็ม ทั้งนี้บริษัทยังมีศักยภาพในการทำงานรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวกับธุรกิจหลัก โดยมีประสบการณ์ในงานติดตั้งระบบสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 115 kV และงานติดตั้งเคเบิลใยแก้วนำแสง

STECH มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 725 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 521.5 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 203.5 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 13 - 16 กรกฎาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 2.78 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 565.73 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,015.5 ล้านบาท การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 14.14 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทฯ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ โดยมี บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ STECH จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของบริษัท และเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน โดยบริษัทฯ มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงในโครงการต่างๆ โดยลงทุนในโรงงานแห่งใหม่ 2 แห่งที่ชลบุรีและมุกดาหาร รวมทั้งเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานเดิม เพื่อย้ำจุดแข็งการมีโรงงานกระจายอยู่ในหลายภูมิภาคของประเทศ นอกจากนี้เงินที่ได้จากการระดมทุนส่วนหนึ่งจะใช้ในชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

STECH มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และทุนสำรองตามกฎหมาย ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็นและความเหมาะสมในอนาคตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัทฯ ตามความเห็นสมควรหรือเหมาะสมของคณะกรรมการบริษัทฯ

ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท ร่วมชัยกิจ จำกัด ถือหุ้น 49.24% กลุ่มครอบครัวมงคลศรีสวัสดิ ถือหุ้น 10.11% และกลุ่มครอบครัววงค์ธนานันท์ ถือหุ้น 3.89% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปที่ www.stec.co.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th