บาฟส์ ขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ทุ่มงบ ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ญี่ปุ่น มูลค่าไม่เกิน 2,500 ล้านเยน

10 Aug 2021

บอร์ด บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ (BAFS) อนุมัติให้บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น มูลค่าไม่เกิน 2,500 ล้านเยน เดินหน้าสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด

บาฟส์ ขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ทุ่มงบ  ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ญี่ปุ่น มูลค่าไม่เกิน 2,500 ล้านเยน

นายประกอบเกียรติ นินนาท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ บาฟส์ (BAFS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 ได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (BC) บริษัทย่อยของบาฟส์ เข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี จำกัด สัดส่วน 99.99 % จากบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) รวมมูลค่าไม่เกิน 2,500 ล้านเยน

ม.ล. ณัฐสิทธิ์ ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ พีดีไอ เอ็นเนอร์ยี มีกำลังการผลิตรวม 13 เมกะวัตต์ ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ บาฟส์ คลีน มีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น และสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ปีแรกของการซื้อกิจการ สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์หลักของกลุ่มบริษัทในการขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่กลุ่มบริษัทและตอบสนองหลักบรรษัทภิบาลที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน สนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดของภาครัฐ

ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นสามัญดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อบรรลุเงื่อนไขการที่บริษัทฯ ต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในไตรมาส 4 ปี 2564

ปัจจุบัน บาฟส์ คลีน มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งสิ้น 7 โรง กำลังการผลิตรวม 36.4 เมกะวัตต์ การลงทุนในครั้งนี้จะเสริมให้บริษัทฯ มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้น รวมเป็น 9 โรง กำลังการผลิตรวมเป็น 49.4 เมกะวัตต์

บาฟส์ ขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ทุ่มงบ  ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ญี่ปุ่น มูลค่าไม่เกิน 2,500 ล้านเยน