บอร์ด CHAYO ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นและเงินสด พร้อมขยายวงเงินรองรับแผนซื้อหนี้ปีนี้อู้ฟู่ ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติในงานประชุม EGM 18 ต.ค.นี้

01 Sep 2021

บอร์ด "ชโย กรุ๊ป" ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 30 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล หรือคิดเป็น 3.33% (1 หารด้วย 30) และจ่ายปันผลเป็นเงินสด เพื่อรองรับการจ่ายภาษีให้กับผู้ถือหุ้น รวมการจ่ายปันผลเป็นหุ้นและเงินสดคิดเป็นการจ่ายปันผลในอัตราการ 0.0185186 บาทต่อหุ้น รวมทั้งอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงินของบริษัท จากวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ในขณะใดขณะหนึ่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ เตรียมชงที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 อนุมัติในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ ด้าน "สุขสันต์ ยศะสินธุ์" แม่ทัพใหญ่ ประกาศขยายพอร์ตเพิ่ม โดยเพิ่มงบซื้อหนี้เพิ่มเป็น 2,500 ล้านบาท มั่นใจรายได้รวมในปี 2564 นี้ โตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25 แน่นอน

บอร์ด CHAYO ไฟเขียวจ่ายปันผลระหว่างกาล เป็นหุ้นและเงินสด                                             พร้อมขยายวงเงินรองรับแผนซื้อหนี้ปีนี้อู้ฟู่ ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติในงานประชุม EGM 18 ต.ค.นี้

นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และธุรกิจศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า หรือขายของ ผ่าน Call Center เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e-Meeting) โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์เข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันจันทร์ ที่ 13 กันยายน 2564 และอนุมัติการจ่ายปันผลระหว่างกาล โดยจ่ายเป็นหุ้นปันผลและเงินสด จากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร โดยจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 30 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 31,789,573 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 15,894,786.50 บาท หรือคิดเทียบเป็นมูลค่าเท่ากับอัตราการจ่ายปันผล 0.0166667 บาทต่อหุ้น ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นรายใดมีเศษของหุ้นจากการจัดสรรปันผลดังกล่าว บริษัทจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดแทนในอัตรา 0.0166667 บาทต่อหุ้นสำหรับเศษดังกล่าว และให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.0018519 บาท รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายเป็นหุ้นและเป็นเงินสดทั้งสิ้นหรือคิดเป็นจำนวนเงินประมาณไม่เกิน 17,660,953 บาท โดยบริษัทกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 กำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 (อย่างไรก็ตาม สิทธิในการรับปันผลดังกล่าวข้างต้นยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าจะได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564)

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 25,799,247.50 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 599,985,518 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 625,784,765.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 51,598,495 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการจ่ายหุ้นปันผล จำนวนไม่เกิน 31,789,573 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และรองรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W1 จำนวนไม่เกิน 12,818,221 หุ้น และรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 จำนวนไม่เกิน 6,990,701 หุ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W1 และใบสำคัญแสดงสิทธิ CHAYO-W2 ไม่ให้ด้อยค่าไปกว่าเดิม

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้พิจารณาอนุมัติการเพิ่มวงเงินในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงินของบริษัท จากวงเงินไม่เกิน 2,500 ล้านบาท เป็นวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ในขณะใดขณะหนึ่ง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ ใช้ในการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมาบริหาร ใช้เป็นเงินลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

ขณะที่แผนการดำเนินงานในปี 2564 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยในปีนี้ตั้งเป้าซื้อหนี้ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่มเติมอีก 12,000 - 15,000 ล้านบาท ด้วยการตั้งงบลงทุนเพื่อซื้อหนี้ไว้ประมาณ 2,500 ล้านบาท ล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 บริษัทมีพอร์ตหนี้ที่บริหารทั้งสิ้นประมาณ 65,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าหนี้ด้อยคุณภาพในระบบยังมีอยู่สูงเนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีนัก ดังนั้นสถาบันการเงินจะทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 4 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ สถาบันการเงินจะนำ NPL ออกมาขาย เพื่อการบริหารจัดการตัวเลข NPL ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม