- ๑๖ พ.ค. อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ร่วมกับสถานทูตเยอรมัน เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ "ผากล้วยไม้ - น้ำตกเหวสุวัต" ฉลองความสัมพันธ์ 160 ปี ไทย-เยอรมนี
- พ.ค. ๒๕๖๕ บลจ.กสิกรไทย โชว์จ่ายปันผล-ลดทุนกอง ABPIF และ CTARAF กว่า 500 ล้านบาท ลูกค้าเตรียมรอรับเงินอยู่ที่บ้านพร้อมกัน 27 มี.ค.นี้
- พ.ค. ๒๕๖๕ บลจ.กสิกรไทย ชูกองทุนโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) จ่ายปันผล-คืนเงินลดทุนกว่า 780 ล้าน พร้อมกัน 27 ก.ย.นี้
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ลงนามในสัญญาการจ้างงานในโครงการสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยขนาด115 kVและ 22k V มูลค่าโครงการรวม 165.85 ล้านบาท (รวมvat) ซึ่งเป็นโครงการของ บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง โดยมีระยะเวลาในการก่อสร้าง 15 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 - วันที่ 19 ธันวาคม 2565) ซึ่งเป็นประเภทงานวิศวกรรม ก่อสร้าง และงานจัดซื้อของโครงการ
"การได้งานในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯมีงานในมือรอรับรู้รายได้( Backlog) เพิ่มขึ้นแตะระดับ 5,500 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันบริษัทฯยังมีแผนที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 4/256 ยังมีที่คาดว่าจะประมูลอีกราว 200 ล้านบาท โดยเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 180 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 19 ล้านบาท ส่วนในช่วงปี 2565 คาดว่าจะยังมีงานที่จะเข้าประมูลอีกราว 7,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงานวางระบบไฟฟ้า 6,700 ล้านบาท และงานวางระบบสื่อสาร 480 ล้านบาท ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่า JR ยังคงมีผลงานที่เติบโตต่อเนื่องในระยะยาว"นายจรัญกล่าว
เขากล่าวอีกว่าแนวโน้มการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังยังเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากมีงานในมือรอรับรู้รายได้ไว้แล้ว ขณะที่มีการประมูลงานโครงการใหม่เข้ามาเพิ่มเติมต่อเนื่อง เน้นงานโครงการที่มีมาร์จิ้นสูง รวมทั้งเพิ่มสัดส่วนงานขายอุปกรณ์มากขึ้นในระหว่างที่รอการเปิดให้ประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่า กว่า 6,000 ล้านบาท รวมทั้งปัจจุบันประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถรักษาอัตราการทำกำไรไว้ได้เป็นอย่างดีและมั่นใจว่าผลงานในปี 2564 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังใช้ความเป็น Engineering Base และ IT Solution Base ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ในการขยายงานไปยังประเภท Oil&Gas มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีกลุ่มลูกค้าและรายได้เริ่มทยอยเข้ามาแล้ว โดยจากที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเจาะในกลุ่มฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบริษัทไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯรับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering ทำให้มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ต่อเนื่อง
ที่มา: เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้