บ.ยันม่าร์ร่วมกับบ.กล้าแกร่งนำร่องยันม่าร์ฟาร์มอัจฉริยะสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ "เกษตรอัจฉริยะ 4.0"

31 Jan 2022

มร. โนบุฮิโกะ คาชิวางิ ประธานบริษัทยันม่าร์ เอส.พี.จำกัด นางสาวยวเรศ เหลืองวิชชเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทกล้าแกร่งจำกัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหารร่วมพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการยันม่าร์ฟาร์มอัจฉริยะด้วยตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ปัญหาภาคการเกษตรทั้งปัญหาผลผลิตตกต่ำและปัญหาต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ในความร่วมมือครั้งนี้ทั้งสององค์กรได้ร่วมกันพัฒนาแนวทางการแก้ไขปรับปรุงประสิทธิภาพและผลผลิตให้กับเกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโดยใช้เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะของยันม่าร์ อันได้แก่ (1) การทำเกษตรแม่นยำสูง (Precision Agricultural) (2) เทคโนโลยีอัตโนมัติ (Automatic Technology) และ (3) ระบบเกษตรอัจฉริยะ (Intelligence) โดยร่วมมือกับกล้าแกร่ง ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ และผลิตต้นกล้าพันธุ์ข้าว ตลอดจนความมุ่งมั่นในการปรับปรุงกระบวนการผลิตข้าวที่ทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ด้านการลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มอัตราผลผลิตต่อไร่ในคราวเดียวกัน ณ ห้องประชุม บริษัทกล้าแกร่ง จ.นครสวรรค์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

บ.ยันม่าร์ร่วมกับบ.กล้าแกร่งนำร่องยันม่าร์ฟาร์มอัจฉริยะสอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ "เกษตรอัจฉริยะ 4.0"

มร. โนบุฮิโกะ คาชิวางิ กล่าวเพิ่มเติมว่าความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งหวังส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเต็มที่และจะเดินหน้าพัฒนา Yanmar Smart Farming ให้เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรแม่นยำเพื่อช่วยลด lead-time เพิ่ม Productivity ให้กับกระบวนการต่าง ๆ มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมดิน การปลูก การบำรุงรักษาและการเก็บเกี่ยว "เรา (ยันม่าร์) จะนำเทคโนโลยีด้านการเกษตรอัจริยะต่างๆ ที่มีการใช้งานอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มาศึกษาและพัฒนาควบคู่ไปกับผู้เชี่ยวชาญในประเทศไทยอันได้แก่บริษัทกล้าแกร่ง เพื่อให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกรในท้องถิ่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด"

นางสาวยวเรศ เหลืองวิชชเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่าความร่วมมือครั้งนี้เกิดจากทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย โดยมุ่งเน้นในด้านการลดต้นทุนและเพิ่มอัตราผลผลิตต่อไร่ ด้วยเทคโนโลยีด้านเกษตรอัจฉริยะจากยันม่าร์ ผสมผสานกับความเชี่ยวชาญของกล้าแกร่งในด้านกระบวนการเพาะปลูกและพัฒนาพันธุ์ข้าว รวมถึงความคุ้นเคยกับเกษตรกรในท้องถิ่นจะทำให้โครงการนี้พัฒนาต่อยอดและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร เชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะบรรลุตามวัตถุประสงค์และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับเกษตรกรในโอกาสต่อไป