บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) เดินเกมผนึกกำลังผู้ถือหุ้นใหญ่เสริมแกร่ง ตอบโจทย์ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม

18 Apr 2022

บล.กรุงไทย ซีมิโก้ (KTZ) ประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) ให้สอดคล้องในทิศทางเดียวกับบริษัทในเครือธนาคารกรุงไทย และบมจ.เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เปิดแผนธุรกิจสร้างการเติบโตก้าวกระโดด เดินเกมผนึกกำลังสองผู้ถือหุ้นใหญ่เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุด ตั้งเป้าหมายรุกหนักทั้งธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ เวลธ์แมเนจเม้นท์ วาณิชธนกิจ และลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่ให้บริการทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจร ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม

บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) เดินเกมผนึกกำลังผู้ถือหุ้นใหญ่เสริมแกร่ง ตอบโจทย์ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม

ม.ล. ทองมกุฎ ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด (บริษัทฯ) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัททรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด ก้าวสู่อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยทำการเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่เป็นบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ใช้ชื่อย่อ "KTX" ซึ่งได้ทำการจดทะเบียนชื่อใหม่ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2565 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่ในครั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงชื่อและตราสัญลักษณ์ของบริษัทฯ ให้สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับบริษัทอื่นในเครือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ด้วยการถือครองหุ้นในสัดส่วนเดิมคือ 50% และ 49.70%

"นอกจากเปลี่ยนแปลงชื่อใหม่เป็น บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ให้สอดคล้องกับผู้ถือหุ้นใหญ่ ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯมีเป้าหมายจะเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ก็จะเน้นการทำงานร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่ให้มากขึ้น ทั้งกับธนาคารกรุงไทย และบมจ. เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล ซึ่งจะจับมือผนึกกำลังกันช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมส่งมอบบริการให้ครอบคลุมและสร้างประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด โดยแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯจะเน้นให้ความสำคัญกับธุรกิจต่าง ๆ ดังนี้ ธุรกิจนายหน้าซื้อหลายหลักทรัพย์ แบบ Full Service Broker, ธุรกิจเวลธ์เมเนจเม้นท์ (Wealth Management), ธุรกิจวาณิชธนกิจ (Investment Banking) และธุรกิจลงทุนหลักทรพย์ต่างประเทศ (Inter Market trading) รวมถึงมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ อาทิ การเป็นผู้จัดการการจัดหน่าย DR (Depositary Receipt) หรือ ตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ตอกย้ำการเป็นบริษัทที่จะให้การบริการทางการเงิน การลงทุนอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มและขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าว

ม.ล. ทองมกุฎ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะทางด้านการเงินและการลงทุน ซึ่งบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมและพัฒนาเครื่องมือ ที่ช่วยปลดล็อกการลงทุนให้ง่ายสุด ๆ บนโลกดิจิทัลด้วย "WealthMe" โมบายแอปพลิเคชัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์และกองทุนได้อย่างง่ายและรวดเร็ว พร้อมซื้อขายได้ทันที อนุมัติไว เพียงผู้สมัครทำการยืนยันตัวตนดิจิทัล (NDID) ผ่านกระบวนการ e-KYC (electronic-Know Your Client) และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่บริษัทกำหนด โดยโมบายแอปพลิเคชัน "WealthMe" พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักลงทุนด้วยจุดเด่น อาทิ จัดการพอร์ตลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทุกสินทรัพย์ไว้ที่เดียว ทั้งหุ้นไทย/ต่างประเทศ อนุพันธ์ ตราสารหนี้ และ กองทุนรวม ระบบวิเคราะห์หุ้นอัจฉริยะ ด้วย AI บทวิเคราะห์คุณภาพ ทั้งหุ้นรายตัวในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมต่อไปยังโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์/อนุพันธ์ และโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ ได้ทันที และเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น