การดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้อย่างต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทฯ ยังคงมีศักยภาพและรักษาความสามารถในการแข่งขันได้" นายนำพล กล่าวนายนำพล เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมรับมือกับสถานการณ์ด้านพลังงานในอนาคต โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวตามแนวทาง ESG 4 Plus ของ เอสซีจี โดยเฉพาะการปรับปรุงกระบวนการผลิตและการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้มากขึ้น นอกจากจะช่วยบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานแล้วยังสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงเป็นการต่อยอดในการพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างมูลค่า เพิ่มให้กับสินค้าอีกทางหนึ่งด้วย เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าโดยนำปัจจัย "สินค้ารักษ์โลก" มาเป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณานอกเหนือจากปัจจัยด้านคุณภาพ ราคา ความคุ้มค่า ความคุ้นเคย ฯ"ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสินค้าภายใต้แบรนด์ COTTO หลายประเภทที่ได้รับฉลาก เอสซีจี กรีนชอยส์ (SCG Green Choices) ทั้งในด้านประหยัดพลังงานจากกระบวนการผลิตที่นำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้านประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียน ยืดอายุการใช้งานของสินค้าให้นานขึ้น หรือมีส่วนประกอบของวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และด้านส่งเสริมสุขอนามัยที่ดีต่อผู้บริโภค โดยสินค้าที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของ SCG Green Choices ได้แก่ กระเบื้องปูพื้นและกระเบื้องบุผนัง จากกระบวนการผลิตที่ลดการใช้น้ำลง 40% และปราศจากสารอินทรีย์ระเหย (VOC) กระเบื้องเกรซพอสเลน จากกระบวนการผลิตที่ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้อย่างน้อย 25% และปราศจากสารอินทรีย์ระเหย (VOC) และกระเบื้องโมเสก จากกระบวนการผลิตที่ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิตลงได้อย่างน้อย 25%ล่าสุด ในงานสถาปนิก'65 ที่จัดขึ้นในวันที่ 26 เม.ย.- 1 พ.ค.นี้ COTTO จะจัดแสดงสินค้าไฮไลต์ คือ กระเบื้องฟอกอากาศ AIR ION กระเบื้องเพื่อสุขอนามัยที่มีคุณสมบัติพิเศษในการดักจับฝุ่น PM2.5กระเบื้องยับยั้งแบคทีเรีย หรือ HYGIENIC TILE เวอร์ชันใหม่ล่าสุด และเป็นครั้งแรกที่จะทำการเปิดตัว กระเบื้อง ECO Collection ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลง 80% จากการนำ Waste ในกระบวนการการผลิตกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง Zero Waste ลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งลงถึง 75% ด้วยการพัฒนาสินค้าต่าง ๆ ในกลุ่มนี้ เป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้พลังงาน สร้างมูลค่าเพิ่มจากนวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำเทรนด์นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยและมุ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแบรนด์ COTTO ด้วย" นายนำพล กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit