ฟิทช์ประกาศให้อันดับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ 'BBB+(EXP)'

25 May 2022

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศอันดับเครดิตที่คาดว่าจะให้แก่หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน อายุ 5 ปี ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ EXIM (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ที่ 'BBB+(EXP)' โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะออกภายใต้โครงการหุ้นกู้ Medium-Term Note (MTN) ที่ปรับเพิ่มขนาดซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้คือเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของธนาคาร

อันดับเครดิตนี้จะสมบูรณ์ต่อเมื่อฟิทช์ได้รับเอกสารที่เกี่ยวข้องฉบับจริงที่สอดคล้องกับเอกสารที่ฟิทช์ได้รับมาแล้วอย่างครบถ้วน หุ้นกู้ที่ออกภายใต้โครงการนี้จะจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิดังกล่าวได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term Foreign-Currency Issuer Default Rating) ของ EXIM เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวจะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับเครดิตสากลของ EXIM อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย (BBB+/Stable/F1) ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลไทยจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารในกรณีที่มีความจำเป็น EXIM มีสถานะเป็นธนาคารรัฐและจัดตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติจัดตั้งเฉพาะ โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดของธนาคารและมีอำนาจในการควบคุมการบริหารงานและกำหนดกลยุทธ์ของธนาคาร

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตและปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต หาเพิ่มเติมได้จากรายงานอันดับเครดิตล่าสุดหัวข้อ 'ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ 'BBB+' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ' ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่ https://www.fitchratings.com/site/pr/10180807

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ EXIM อาจถูกปรับลดอันดับหากความสามารถในการให้การสนับสนุนที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารปรับตัวด้อยลง ซึ่งสะท้อนได้จากการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทย หรือหากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารปรับตัวลดลง ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจเกิดขึ้นหากรัฐบาลลดสัดส่วนการถือหุ้นในธนาคารลงอย่างมีนัยสำคัญหรือหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานทางกฎหมายของธนาคารจากการเป็นธนาคารรัฐ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ EXIM อยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของประเทศไทยจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตของ EXIM มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างอันดับเครดิตของประเทศไทย

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

หากไม่มีการเปิดเผยอื่นใดในส่วนนี้แสดงว่าระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต จะไม่เกิน 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตามสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก https://www.fitchratings.com/esg