กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 37.60-38.25 ติดตามข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ

03 Oct 2022

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 37.60-38.25 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 37.72 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 37.64-38.46 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 16 ปี ทางด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bp สู่1.00% เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินยูโรและปอนด์แต่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงจากระดับแข็งค่าสุดในรอบ 20 ปี โดยธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) เข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษเพื่อดูแลเสถียรภาพหลังนักลงทุนตื่นตระหนกกับแผนลดภาษีของรัฐบาลและเทขายพันธบัตรอย่างรุนแรง บีโออีระบุว่าจะซื้อพันธบัตรที่มีอายุคงเหลืออย่างน้อย 20 ปี ระหว่างวันที่ 28 กันยายน-14 ตุลาคม รวมกัน 6.5 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งเป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อสนับสนุนตลาดแบบฉุกเฉิน ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 30 ปีพุ่งทะลุระดับ 5% ในช่วงก่อนประกาศมาตรการ และลดลงมาที่ 3.82% ท้ายสัปดาห์ ส่วนเงินปอนด์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้แรงซื้อดอลลาร์ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับหลายสกุลเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 7,148 ล้านบาท และ 22,588 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ในไตรมาส 3/65 เงินบาทอ่อนค่าลง 6.8%

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าจุดสนใจอยู่ที่สถานการณ์ตลาดพันธบัตรโลก สงครามยูเครนและปัญหาด้านพลังงานในยุโรป รวมถึงดัชนี ISM และข้อมูลตลาดแรงงานเดือนกันยายนของสหรัฐฯ อนึ่ง กรุงศรีคาดว่าการพักฐานของค่าเงินดอลลาร์เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้นท่ามกลางภาวะตลาดการเงินตึงตัว ขณะที่ยังไม่มีสัญญาณว่าท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเปลี่ยนไปจากการเร่งคุมเงินเฟ้อ แม้ตลาดไม่มั่นใจว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยได้อีก 75bp ในเดือนพฤศจิกายนนี้หรือไม่ เชื่อว่าโอกาสการเข้าแทรกแซงตลาดร่วมกันของกลุ่มเศรษฐกิจหลักเพื่อทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าลงในเวลานี้เป็นไปได้น้อยและขัดแย้งกับนโยบายของเฟดในปัจจุบัน โดยจุดเปลี่ยนของแนวโน้มค่าเงินจะอยู่ที่สัญญาณทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯเป็นหลัก

สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธปท.ระบุว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของไทย ต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปและให้เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจในแต่ละช่วง โดยกรุงศรีคาดว่ากนง.จะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 25bp ในทุกรอบการประชุมที่เหลืออีก 3 ครั้งก่อนสิ้นไตรมาส 1/66