อุปสรรคที่สำคัญของผลไม้ส่งออก คือการถูกจำกัดด้วยมาตรฐานการตรวจสอบที่เข้มงวดของแต่ละประเทศทางออกที่ดีที่สุดนอกเหนือจากการพยายามปรับปรุงคุณภาพในกระบวนการผลิตทางการเกษตร คือความพยายามในการเพิ่มมูลค่าสินค้าผ่านงานวิจัยเพื่อการแปรรูปสู่อุตสาหกรรมโลกให้เกิดประโยชน์ต่อไปในวงกว้างอย่างสง่าผ่าเผย
ศาสตราจารย์ นายแพทย์วีรศักดิ์ เมืองไพศาล อาจารย์แพทย์ประจำสาขาเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จจากการมีส่วนทำให้"มังคุด" ผลไม้ที่มีมูลค่าส่งออกในลำดับต้นๆ ของไทย ได้เพิ่มมูลค่า
จากการค้นพบในห้องปฏิบัติการถึงคุณค่าของสารสกัด "แซนโทน" (xanthone derivatives) จากเปลือกมังคุด โดยวิธีมาตรฐานของการสกัดและผลิต พบว่ามีฤทธิ์ป้องกันการตายของเซลล์สมองจากสารชักนำ สามารถต้านอนุมูลอิสระ
และยับยั้งเอนไซม์อะซิติลโคลีนเอสเทอเรส(Acetylcholinesterase) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำลายสารสื่อประสาทที่ช่วยเรื่องความจำในหลอดทดลอง และทำให้สัตว์ทดลองมีความจำ และอารมณ์ที่ดีขึ้น และไม่เกิดพิษต่อร่างกาย ทำให้สามารถพัฒนาเป็นยา
โดยวิจัยในผู้ที่แข็งแรงดี และวิจัยต่อยอดเพื่อการป้องกันและรักษาภาวะสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ โดยวิธีวิจัยแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมแบบปกปิดสองทาง (double-blinded randomized controlled trial) ในผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์จำนวน 108 ราย พบว่าสามารถต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วยและมีสัดส่วนของผู้ป่วยที่มีความจำดีขึ้น เมื่อเทียบกับยาหลอก
งานวิจัยดังกล่าวเป็นความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข และตีพิมพ์ผลงานวิจัยแล้วในวารสารระดับนานาชาติ
ซึ่งจะเป็นนิมิตหมายอันดีต่ออนาคตของผู้ป่วยในกลุ่มผู้สูงวัยที่นับวันจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของประชากรโลกในยุคปัจจุบัน ที่อุบัติการณ์ภาวะสมองเสื่อมนับเป็นปัจจัยหลักจากการเสื่อมถอยของร่างกายตามวัยที่พ้นผ่าน
ที่ผ่านมา มังคุดเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "ราชินีแห่งผลไม้ไทย" ด้วยรสชาติหอมหวานอมเปรี้ยวที่ครองใจคนทั่วโลก อีกทั้งเปลือกมังคุดที่เคยเป็นเพียงวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรที่ไร้ค่า ต่อมาได้รับการค้นพบว่าสารสกัดจากเปลือกมังคุดมีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อโรคช่วยสมานแผล และต้านอนุมูลอิสระ สามารถนำเอาไปแปรรูปทำเป็นเครื่องสำอาง และยาได้มากมายหลายขนานตั้งแต่เจลป้ายปาก ไปจนถึงวิจัยในการรักษาโรคมะเร็งซึ่งยังมีข้อมูลจำกัดในสัตว์ทดลอง
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า หากจะผลักดันงานวิจัยสารสกัดจากเปลือกมังคุดต้านสมองเสื่อมสู่เชิงพาณิชย์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไปในวงกว้าง จำเป็นจะต้องผ่านการวิจัยในมนุษย์ ในจำนวนตัวอย่างที่มากพอจนสามารถรับรองถึงประสิทธิภาพของผลการวิจัยได้อย่างแท้จริง อีกทั้งยังต้องใช้เม็ดเงินลงทุนในปัจจัยที่เกี่ยวข้องต่อไปอีกมากมายมหาศาล
มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมทำหน้าที่ "ปัญญาของแผ่นดิน" ตามปณิธานฯ พัฒนางานวิจัยเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาวะแห่งมวลมนุษยชาติ โดยหวังให้การค้นพบสารสกัดจากเปลือกมังคุดต้านสมองเสื่อมนี้ สามารถจุดประกายสู่การบูรณาการต่อยอดให้ประชากรโลกในกลุ่มสูงวัยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกับสุขภาพสมองที่สมบูรณ์ พร้อมเก็บความทรงจำดีๆ ที่มีต่อครอบครัว คนรอบข้าง และโลกใบนี้ได้ต่อไปอีกตราบนานเท่านาน
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th
สัมภาษณ์ และเขียนข่าวโดย ฐิติรัตน์ เดชพรหม นักประชาสัมพันธ์ (ชำนาญการ) งานสื่อสารองค์กร กองบริหารงานทั่วไป สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2849-6210
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit