FPI ส่งซิกงบ Q4 ทะลุฟ้าออลไทม์ไฮ ได้พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในอเมริกาเสริมทัพ เตรียมทุ่มงบ 100 ลบ.เพิ่มแม่พิมพ์บุกตลาด

24 Nov 2022

บมจ.ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ (FPI) มั่นใจแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/65 โตกระฉูด อานิสงส์ยอดขายต่างประเทศพุ่ง แถมยังได้พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในอเมริกาเสริมทัพ เตรียมทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เพิ่มแม่พิมพ์ชิ้นส่วนรถยนต์ในไทย บุกตลาดอเมริกา หนุนผลงานออลไทม์ไฮต่อเนื่อง

FPI ส่งซิกงบ Q4  ทะลุฟ้าออลไทม์ไฮ ได้พันธมิตรยักษ์ใหญ่ในอเมริกาเสริมทัพ เตรียมทุ่มงบ 100 ลบ.เพิ่มแม่พิมพ์บุกตลาด

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) (FPI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมแผนบุกตลาดชิ้นส่วนยานยนต์ ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างเต็มรูปแบบ หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในสหรัฐอเมริกา ในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ซึ่งในเบื้องต้นบริษัทฯ เตรียมส่งชิ้นส่วนสินค้า 50 โมเดล ให้กับพันธมิตร เพื่อนำไปจำหน่ายในสหรัฐ และเตรียมทุ่มงบลงทุนราว 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มจำนวนแม่พิมพ์ ในประเทศไทย รองรับการขยายตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ไปยังตลาดอเมริกา

"มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยได้รับปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อสินค้าในตลาดต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น และจากการที่บริษัทฯ ได้รับโอกาสจากพันธมิตรในการบุกตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะเริ่มมีออเดอร์จากพันธมิตรเพื่อส่งสินค้าเข้าไปบุกตลาดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง และที่สำคัญถือเป็นตลาดที่มี Gross Margin สูงที่สุด เมื่อเทียบกับทั่วโลก อีกทั้งยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินบาท ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการล็อคต้นทุนค่าเงินไว้ที่ 36-37 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ส่วนหนึ่งมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน"

ทั้งนี้ จากแผนการบุกตลาดในสหรัฐอเมริกา จะทำให้แนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯในปี 2566 เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากปี 2565 ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ไปแล้ว โดยผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้รวมกว่า 2,025.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 1,552.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 323.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.9% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 188.2 ล้านบาท จ่อทุบสถิติใหม่ เทียบกำไรปี 2564 ทั้งปีอยู่ที่ 328.98 ล้านบาท