ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) เริ่มซื้อขาย 15 ธ.ค. นี้

14 Dec 2022

บมจ. ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้ให้บริการระบบติดตามยานพาหนะ GPS Tracking อันดับ 1 ของประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 15 ธ.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,446.30 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "DTCENT"

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "DTCENT" ในวันที่ 15 ธันวาคม 2565

DTCENT ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบติดตามยานพาหนะด้วยดาวเทียม (GPS Tracking) ครบวงจร ตั้งแต่ ออกแบบ ผลิต จัดจำหน่าย ให้บริการเช่าอุปกรณ์ รวมถึงพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับบริหารงานขนส่ง ให้แก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของประเทศ ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจาก บจก. บุญรอด ซัพพลายเชน บริษัทชั้นนำด้านโลจิสติกส์ และ บจก. ยาซากิ เอ็นเนอร์ยี่ ซิสเท็มส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนสำหรับยานพาหนะขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นเชิงกลยุทธ์ (Strategic Shareholder) ถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเสริมช่องทางการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจด้านไอโอทีโซลูชั่น (IoT Solution)

DTCENT มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 602.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 900.00 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 305.00 ล้านหุ้น โดยเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 228.75 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทและบริษัทย่อย 45.75 ล้านหุ้น และ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 30.50 ล้านหุ้น ในวันที่ 1-2, 6 ธันวาคม 2565 ราคาหุ้นละ 2.86 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 872.30 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,446.30 ล้านบาท โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ เปิดเผยว่า การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัทและเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำมาลงทุนสร้างศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ เพื่อต่อยอดธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ GPS รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงด้านเงินทุนหมุนเวียน ให้บริษัทฯ รองรับการประมูลงานโครงการของหน่วยภาครัฐในอนาคต

DTCENT มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มครอบครัวนายทศพล และนางสาวจิราพร ถือหุ้น 48.93% 2) บจก. ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น ถือหุ้น 13.44% 3) บจก. บุญรอด ซัพพลายเชน ถือหุ้น 11.20% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO จะพิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E)

ทั้งนี้ ราคาที่เสนอขายคิดเป็นอัตราส่วน P/E เท่ากับ 46.78 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของบริษัทที่ 0.06 บาท/หุ้น ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ (Fully Diluted) ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและการจัดสรรทุนสำรอง ตามกฎหมาย

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.dtc.co.th และที่ www.set.or.th