TKN เปิด 3 กลยุทธ์ เร่งสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันผลงานปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%

20 Mar 2023

บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง หรือ TKN เปิด 3 กลยุทธ์สร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย, เพิ่มช่องทางการขายใหม่และเดินหน้านโยบาย "3GO" ต่อเนื่อง พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิเติบโต Double Digits แย้มเตรียมทบทวนการเปิดสาขา Taokaenoi Land หนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ เพื่อดึงดูดเม็ดเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติ

TKN เปิด 3 กลยุทธ์ เร่งสร้างการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ ผลักดันผลงานปี 2566 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%

นายจิระพงษ์ สันติภิรมย์กุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้แบรนด์ 'เถ้าแก่น้อย' รวมถึงขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์ชานม Just Drink เปิดเผยว่า เป้าหมายการดำเนินงานปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% พร้อมรักษาอัตรากำไรสุทธิเติบโตเป็นเลขสองหลัก (Double Digits) ผ่านแผนงานการขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

(1.) พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product Mix) เพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีแผนออกสินค้าใหม่ด้านนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้นซึ่งเป็นกลุ่มที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มสาหร่าย (Seaweed) ไม่ต่ำกว่า 10 รายการ (SKUs) เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภค และผลิตภัณฑ์นอกเหนือกลุ่มสาหร่าย (Non-Seaweed) ได้แก่ เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ "จัสท์ดริ้งค์ (Just Drink)" ซึ่งจะมีรสชาติใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาไม่ต่ำกว่า 2-3 รายการ (SKUs)

(2.) เพิ่มช่องทางการขายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นขยายช่องทางร้านค้าท้องถิ่น (Traditional Trade) อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในปัจจุบันตลาดในประเทศมีจำนวน Traditional Trade เพิ่มขึ้นมาอีกกว่า 1,000 ร้านค้า เพื่อกระจายสินค้าเข้าสู่ผู้บริโภค ส่วนตลาดต่างประเทศได้มีการจัดกิจกรรมออนไลน์ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ของแต่ละประเทศเข้ามาทำกิจกรรมร่วมด้วย (3.) เดินหน้านโยบาย "3GO" ต่อเนื่อง ประกอบด้วย "GO Firm" ปรับองค์กรให้กระชับ (Lean) คล่องตัวและรวดเร็วขึ้น เพื่อลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ "GO Broad" หรือการขยายฐานธุรกิจให้กว้างขึ้นและมีคุณค่า ผ่านการพัฒนาสินค้านวัตกรรมกลุ่มใหม่ๆ (Innovation Food) เข้าสู่ตลาด รวมถึงเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้ามากขึ้น และ "Go Global" การขยายตลาดในต่างประเทศที่มีศักยภาพ ผลักดันยอดขายให้เติบโตต่อเนื่อง

รองกรรมการผู้จัดการ TKN กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นับเป็นปัจจัยเชิงบวกที่สำคัญต่อการเติบโตบริษัทฯ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนหรือนักท่องเที่ยวชาติประเทศอื่นๆ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในหมวดต่างเพิ่มมากขึ้น อาทิ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของฝาก ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้กลับมาเปิดสาขา Taokaenoi Land อีกครั้งหนึ่ง โดยเริ่มที่เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟร้อนท์ (Asiatique The Riverfront) ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเปิดโล่งขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งนี้ ก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 ร้าน Taokaenoi Land นับเป็นร้านของฝากแบบ One Stop Shopping และถือเป็นหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อของฝากก่อนกลับประเทศไปทุกครั้ง

"นับตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งเรามีการผลักดันและสร้างกระแสในจีนว่า ถ้ามาเที่ยวประเทศไทยลองแวะซื้อสาหร่ายเถ้าแก่น้อยกลับไปเป็นของฝากหรือรับประทานเล่น พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้นำเอาศิลปินชื่อดังที่เป็นคู่จิ้นแห่งยุค ซี-พฤกษ์ พานิช และนุนิว-ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์สาหร่ายเถ้าแก่น้อย พร้อมมีรูปบนซองสาหร่ายรวมถึงมีการจัดกิจกรรมไลฟ์สด และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า ยิ่งส่งผลทำให้ยอดขายจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ TKN สามารถครองตำแหน่งผู้นำตลาดสาหร่ายอันดับ 1 ในทุกๆกลุ่ม ทั้ง ทอด อบ ย่าง" นายจิระพงษ์ กล่าว