HARLEY-DAVIDSON(R) เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ลุยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

21 Mar 2023

พบกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน พร้อมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ ปี 2023 ที่บูธ

HARLEY-DAVIDSON(R) เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ลุยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44

Harley-Davidson เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ด้วยการขนทัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชันทั้ง 5 รุ่น พร้อมด้วยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ ปี 2023 ลุยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ที่บูธหมายเลข M3

ภายในบูธ Harley-Davidson พบกับไฮไลท์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นพิเศษ ฉลองครบรอบ 120 ปี โดดเด่นและเปล่งประกายด้วยสีแดง Heirloom Red นำโดยรุ่น Fat Boy(R) 114 Anniversary รุ่น Heritage Classic Anniversary รุ่น Road Glide(R) Special Anniversary รุ่น Street Glide(R) Special Anniversary และรุ่น CVO(TM) Anniversary รวมถึง ไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ปี 2023 ได้แก่ รุ่น Breakout(R) รถตระกูลครุยเซอร์กับสมรรถนะเหนือชั้นล่าสุด และ Nightster(R) Special โฉมใหม่ รถตระกูลสปอร์ตน้ำหนักปานกลาง (middle-weight) เสริมทัพด้วยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Carryover ในโครงสีใหม่ ได้แก่ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Nightster(TM) รุ่น Sportster S รุ่น Road Glide(R) ST และรุ่น Pan America(TM) 1250 Special โดยรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2023 เปิดจำหน่ายราคาเริ่มต้นที่ 658,000 บาท

รถมอเตอร์ไซค์รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน โดดเด่นและเปล่งประกายด้วยสี Heirloom

Harley-Davidson เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ CVO(TM) Road Glide Limited Anniversary รุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน ระดับซุปเปอร์พรีเมียม เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปีแห่งการสร้างสรรค์ พร้อมการนำเสนอโครงสีที่ซับซ้อนที่สุดจาก Harley-Davidson เริ่มจากตัวพื้นสีดำ Anniversary Black ที่จะถูกพาดทับด้วยแผงสีแดง Heirloom Red ตกแต่งลายเส้นด้วยสีแดงสด และฝีมือการวาดลายหยักสีทองปิดท้าย อีกทั้งยังมีลูกเล่นที่ซ่อนไว้เพื่อเพิ่มความพิเศษให้แผงตัวรถดูเหมือนส่วนหัวและปีกของนกอินทรีที่กำลังโบยบิน

สำหรับ เฉดสีพิเศษฉลองครอบรอบ 120 ปี เป็นการเน้นย้ำถึงความเชี่ยวชาญด้านสุนทรียภาพและการคงรักษาความคลาสสิกของ Harley-Davidson พร้อมวางจำหน่ายในรูปแบบที่แตกต่างกัน และนำเสนอ Harley-Davidson รุ่นลิมิเตดเพิ่มเติม โดยการผสมผสานระหว่างสีและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตัวรถประกอบด้วยการใช้โครงสีแบบคลาสสิก พร้อมสีพื้นแดงมันวาว Heirloom Red ตัวรถถูกตกแต่งด้วยลายเส้นสีแดงสดและแต่งเติมความเข้มด้วยสี Midnight Crimson แบบไล่เฉดสี และรายละเอียดพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ ตรานกอินทรีสีทองบนตัวถังในสไตล์ Art Deco ที่หุ้มเบาะนั่งพร้อมกรอบสีแดงและโลโก้ Harley-Davidson ที่ปักด้วยด้ายสีทอง และส่วนเครื่องยนต์ที่มีสีแดงแบบไล่เฉดสี

การกลับมาอีกครั้งของรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout

รุ่น Breakout กลับมาอีกครั้งในไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ที่เปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือ เพิ่มความดุดันของเครื่องยนต์และปรับโฉมไฟหน้าแบบใหม่ ให้รับกับรูปทรงรถที่ยาวและเพรียว ขับเคลื่อนเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight(R) 117 แบบ V-Twin ด้วยแรงบิดเต็มกำลัง และระบบส่งกำลังของ Harley-Davidson ที่ติดตั้งจากโรงงาน ส่งพลังให้ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout พร้อมที่จะสะกดทุกสายตาบนท้องถนน

แชสซีของรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่น Softail(R) ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของท้ายรถอันคลาสสิก และประสิทธิภาพการขับขี่พร้อมด้วยการควบคุมที่ทันสมัยไว้ และสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout ถูกรังสรรค์มาเพื่อเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่สะกดทุกสายตาบนถนนด้วยสไตล์และขุมพลังของตัวรถเอง

ตื่นตาตื่นใจกับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Nightster Special ในรูปแบบใหม่

รถมอเตอร์ไซค์น้ำหนักปานกลาง (middle-weight) โฉมใหม่ กับการยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของรถมอเตอร์ไซค์ Nightster ด้วยความลงตัวด้านสไตล์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่เหนือชั้นขึ้น ขับเคลื่อนอย่างเต็มพิกัดด้วยเครื่องยนต์ Revolution(R) Max 975T แบบ V Twin ที่ระบายความร้อนด้วยของเหลว ถูกปรับแรงบิดให้มีจำนวนรอบต่ำ เพื่อลดน้ำหนักรวมของตัวรถ โดยน้ำหนักของเครื่องยนต์จะผนวกรวมกับแชสซีช่วงกลาง

เพิ่มระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) และระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน (Traction Control)

ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cruise Control) จะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy รุ่น Fat Bob รุ่น Breakout และรุ่น Low Rider S ในขณะเดียวกัน ระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบพื้นฐาน (Cruise Control) ยังคงเป็นฟีเจอร์สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่น Heritage Classic และรุ่น Sport Glide

สำหรับระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน (Traction Control) จะเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Breakout, Low Rider S และ รุ่น Low Rider ST ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันรอบการหมุนของล้อรถที่มากเกินไปภายใต้การเคลื่อนตัวที่เร็ว ผู้ขับขี่สามารถปิดระบบควบคุมการยึดเกาะบนถนน โดยกดปุ่มที่อยู่บริเวณแฮนด์ควบคุม

งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง 2 เมษายน 2566 ที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี โดย Harley-Davidson จะอยู่ที่บูธหมายเลข M3

.

HARLEY-DAVIDSON(R) เฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ขนทัพรถมอเตอร์ไซค์ลุยงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44