"เซ็นทรัล ทำ" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาสิ่งแวดล้อม ต่อยอดสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

30 Mar 2023

"เซ็นทรัล ทำ" ทำด้วยกัน-ทำด้วยใจ ภายใต้โครงการเพื่อความยั่งยืนของ กลุ่มเซ็นทรัล ดำเนินงานโดยมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ ให้โอกาสทุกคนในสังคมด้วยการ พัฒนาด้านการศึกษาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ ส่งเสริมอาชีพคนพิการ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้มั่นคง แบ่งปันความรู้ทักษะต่าง ๆ สนับสนุนช่องทางการสื่อสารทางการตลาด พร้อมกับการรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่โลกสีเขียว ขับเคลื่อนทุกภาคส่วนสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

"เซ็นทรัล ทำ" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาสิ่งแวดล้อม ต่อยอดสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า ความสำเร็จและเป้าหมายของโครงการ "เซ็นทรัล ทำ" ในปี 2565 สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน 1,500 ล้านบาท, เพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่า 5,519 ไร่, ลดขยะจากการรีไซเคิลและการนำมาใช้ประโยชน์ได้กว่า 10,000 ตัน, ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคากว่า 101 แห่ง, ผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 71,500 เมกะวัตต์-ชั่วโมง และในปี 2566 ตั้งเป้าหมายในการสร้างรายได้ให้ชุมชน 1,800 ล้านบาทต่อปี เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวและฟื้นฟูป่า 6,500 ไร่ มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 ภายใต้การขับเคลื่อน 6 แนวทางการลงมือทำเพื่อความยั่งยืนผ่าน 7 โครงการไฮไลต์

7 โครงการไฮไลต์ 2565 ต่อเนื่อง 2566 มุ่งสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้ และต่อยอดสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน

  1. จริงใจ มาร์เก็ต จ. เชียงใหม่ ในย่าน "จริงใจ เซ็นทรัล เชียงใหม่" ของกลุ่มเซ็นทรัล การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์ ได้เริ่มต้นตั้งแต่ ปี พศ 2555 รวมพื้นที่ทั้งหมดมากกว่า 28 ไร่ โดยภายในตลาดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ อาหาร (Food) ศิลปะและงานออกแบบ (Art & Design) งานฝีมือ (Craft) และยังมีร้าน Tops Green สโตร์สีเขียวแห่งแรก รวมไปถึงร้าน Good Goods สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทยที่ผ่านการพัฒนาคุณภาพและออกแบบให้มีความร่วมสมัยที่เน้นสร้างความสุขอย่างยั่งยืนทั้งแก่ผู้คนในชุมชน และนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถช่วยสร้างเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวให้กับเศรษฐกิจไทยได้กว่า 40 ล้านบาทต่อปี สำหรับตลาดจริงใจ เป็นตลาดปลอดโฟม (No foam 100%) รณรงค์ให้ลูกค้านำกระเป๋าผ้ามาใส่สินค้าเพื่อลดขยะพลาสติก มีจุดตั้งถังขยะแยกประเภทภายในโครงการ เพื่อส่งต่อไปในกระบวนการจัดการขยะที่ถูกต้องได้ง่ายขึ้น ตามเป้าหมายโครงการ Journey to Zero ของกลุ่มเซ็นทรัล ซึ่งปัจจุบันได้ลดขยะอาหารไปสู่หลุมฝังกลบได้กว่า 43,000 กิโลกรัม และมีการติดตั้งเครื่องผลิตปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ (COWTEC ) เมื่อปี 2565 ภายในตลาดด้วยการนำเศษอาหารที่เกิดจากตลาดมาทำเป็นปุ๋ยและก๊าซชีวภาพ และมากไปกว่านั้น ภายในจริงใจมาร์เก็ตยังมีการปูพื้นถนนบางส่วนด้วยบล็อกปูถนนรีไซเคิลจากถุงพลาสติก ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการจัดการขยะพลาสติกให้หมุนเวียนและเกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนอีกด้วย ทั้งนี้ในระหว่างมิถุนายน ปี 2565 - กลางเดือน มีนาคม ปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวภายในตลาดจริงใจ เชียงใหม่ กว่า 820,000 ราย
  2. ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จ. ตรัง การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม ซึ่งมีความโดดเด่นทั้งทางด้านวัฒนธรรมและความงดงามทางธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่กลุ่มเซ็นทรัลให้การสนับสนุนก่อสร้าง "พิพิธภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรี" เพื่อรวบรวมผ้าทอมือโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 200 ปี พร้อมทั้งสืบสานลายอัตลักษณ์โบราณ ในปี 2565 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 7.3 ล้านบาท และมีจำนวนสมาชิกชุมชนที่เข้าร่วม 155 คน ปัจจุบัน "ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี" นับได้ว่าเป็นต้นแบบของศูนย์การเรียนรู้การอนุรักษ์เชิงวัฒนธรรม ในแต่ละเดือนจะมีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แวะเวียนไปดูงานอย่างสม่ำเสมอ โดยในปี 2566 ได้มีการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวและป้ายข้อมูล เพื่อให้นักท่องเที่ยวทราบแหล่งข้อมูลท่องเที่ยวในชุมชน และอบรมความรู้เรื่องการท่องเที่ยวชุมชน ให้กับชุมชนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว
  3. ศูนย์การเรียนรู้พุทธนิเวศเกษตรอินทรีย์ ไร่เชิญตะวัน จ.เชียงราย การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์ เซ็นทรัล ทำ ร่วมมือกับพระเมธีวชิโรดม (ท่าน ว.วชิรเมธี) ผู้ก่อตั้งศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย และภาคีเครือข่าย ต่อยอด โครงการพุทธนิเวศเกษตรอินทรีย์ ไร่เชิญตะวัน ผลักดันสู่ "ต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านนวัตกรรมการทำเกษตรอินทรีย์" เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชาวไร่ชาวนาในการทำเกษตรแบบบริสุทธิ์ ปลอดสารเคมี และเน้นใช้เกษตรทฤษฎีใหม่ พัฒนาวิสาหกิจชุมชน เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน บนพื้นที่ 2 ไร่ เปิดสอนตั้งแต่ ปี 2556 มีทั้งหมด 13 รุ่น และในปี 2566 เซ็นทรัล ทำ ตั้งเป้าในการพัฒนาพื้นที่เกษตรอินทรีย์เพิ่มเติม 13 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ปลูกไม้ผล พืชเศรษฐกิจ จำนวน 3 ไร่ และพื้นที่ปลูกผักสวนครัว สมุนไพรพื้นบ้าน จำนวน 10 ไร่
  4. ชุมชนเกษตรอินทรีย์วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์ เซ็นทรัล ทำ ร่วมกับ มูลนิธิสายใยแผ่นดิน (Earth Net Foundation) และหน่วยงานมากมายในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านต่าง ๆ ดำเนิน โครงการพื้นที่วิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทา เป็นโครงการต้นแบบ บนพื้นที่จำนวน 9 ไร่ ที่มุ่งหวังให้สมาชิกคนรุ่นใหม่รวมกลุ่มกันจัดสรรพื้นที่ให้เกิดประโยชน์ด้านต่าง ๆ และยังสนับสนุนโครงการพื้นที่ข่วงชีวิต วิถียั่งยืน เพื่อรองรับกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องกับการทำเกษตรแบบยั่งยืนในปัจจุบัน นอกจากนี้เซ็นทรัลทำยังได้พัฒนาศักยภาพในการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้เป็นชุมชนต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์ เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับการเกษตรอินทรีย์และวิถีชีวิตยั่งยืน ทำการก่อสร้างที่พักโฮมสเตย์ภายในพื้นที่ทั้งหมดจำนวน 4 หลัง เพื่อขยายศูนย์การเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวและเกษตรกรเพื่อเข้ามาใช้ชีวิตใกล้ชิดกับชุมชนได้ โดยในปี 2565 สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน มากกว่า 5 ล้านบาท
  5. กาแฟรักษาป่า ภูชี้เดือน จ.เชียงราย การท่องเที่ยวชุมชนเชิงนิเวศ กาแฟอินทรีย์ รักษาป่า ภูชี้เดือน กาแฟอาราบิก้าออร์แกนิกบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ปลูกด้วยความใส่ใจใต้ต้นไม้ที่เรารักษาไว้เพื่อร่มเงาที่เหมาะสม สำหรับการเติบโตของต้นกาแฟและเพื่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมกับชุมชน เซ็นทรัล ทำ ได้เข้าไปส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟอินทรีย์รักษาป่าภูชี้เดือน จังหวัดเชียงราย สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ภูชี้เดือนปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกจากเกษตรแบบเชิงเดี่ยวและใช้สารเคมี มาเป็นการปลูกกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าแท้ โดยการคัดต้นพันธุ์แท้ ทริปปิก้า มัลเดอริ่ง จากต่างประเทศ มาปลูกในผืนป่าธรรมชาติบนพื้นที่ภูชี้เดือน เป็นการปลูกกาแฟรักษาป่ากว่า 1,500 ไร่ และ ในปี 2565 ที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนมากกว่า 6 ล้านบาท มีสมาชิกเข้าร่วมกว่า 84 ราย
  6. ชุมชนผ้าย้อมครามบ้านกุดจิก จ.สกลนคร การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรม เซ็นทรัล ทำ ร่วมมือกับ กรมพัฒนาชุมชน เข้าไปสนับสนุนพัฒนากลุ่มทอผ้าบ้านกุดจิก โดยให้ความสำคัญกับความร่วมมือระหว่างชุมชนและองค์กร ร่วมกันหาจุดเด่น และเอกลักษณ์ ที่ทั้งฝ้ายและสีธรรมชาติ นั้นทำการปลูกเอง ครามก็ปลูกเอง ความสามารถที่แตกต่างของชุมชนนี้ กลุ่มเซ็นทรัล นำมาพัฒนา พร้อมถ่ายทอดทักษะความรู้และความเชี่ยวชาญที่เซ็นทรัลมี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่งเสริมด้านการขายและการตลาด เพื่อสร้างรายได้และสร้างอาชีพให้กับคนท้องถิ่น ด้วยการสร้างลวดลายใหม่ สนับสนุนโรงย้อมผ้า สนับสนุนช่องทางการจำหน่าย และนำผ้าครามสกลฯ มาพัฒนาเป็นสินค้าหลากหลายแบบภายใต้แบรนด์ "กู๊ด กู๊ดส์" Good Goods เพื่อสร้างรายได้ให้ชุมชนและสืบสานวัฒนธรรมการทอผ้าให้คงอยู่ ในปี 2565 เซ็นทรัล ทำ ได้สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 1 ล้านบาท ต่อปี ซึ่งมีชุมชนเข้าร่วมทั้งหมด 30 คน
  7. ศูนย์การเรียนรู้พัฒนาผลผลิตการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน บ้านเทพพนา อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ การท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์ เป็น 1 ใน 7 ของผู้ปลูกอะโวคาโด พันธุ์แฮสส์ในประเทศไทย ผลผลิตหลักคือ อะโวคาโด พันธุ์แฮสส์ แมกซิโก ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุดในโลก จุดเริ่มต้นจากการปลูกอะโวคาโด สายพันธุ์แฮสส์ สู่การทำเกษตรอย่างยั่งยืน ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ด้วยความตั้งใจที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจ ที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ และได้ทำการขยายผลเครือข่ายผู้ปลูกอะโวคาโด จำนวน 1,000 ราย (พื้นที่เพาะปลูก 2,000 ไร่) ทั้งนี้ โครงการ เซ็นทรัล ทำ โดยกลุ่มเซ็นทรัล ได้เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยการ พัฒนาต่อยอดด้านท่องเที่ยวชุมชนเชิงวิถีเกษตรอินทรีย์ โดยจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ชัยภูมิ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา ชุมชนมีสมาชิกกว่า 400 ราย มีรายได้กว่า 3 ล้านบาท ตั้งเป้าเพิ่มสมาชิกปีละ 100 ราย

นอกจากนี้ เซ็นทรัล ทำ ยังมุ่งเน้นการลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสด้านการศึกษา พัฒนาทรัพยากรบุคคล ส่งเสริมและสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ ให้สามารถเลี้ยงดูตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปี 2565 เซ็นทรัล ทำ ได้ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้แบบ Project-based Learning ผ่านการลงมือปฏิบัติจริงในฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้จัดทำให้เป็นศูนย์การเรียนรู้แล้ว 47 แห่ง ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการศึกษา พัฒนาทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเปิดโอกาสในการจ้างงาน ขยายแนวทางการจัดทำโครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา 5 สถานศึกษา มีผู้เรียนรวมจำนวน 10,527 คน ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด

ทำการอบรมโค้ชครู เพื่อเปลี่ยนแปลงการเรียนการสอนแบบท่องจำ ให้เป็นการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยฝึกอบรมและพัฒนาครูผู้สอนให้มีทักษะการโค้ช ส่งเสริมให้นักเรียนกล้าคิด กล้าถาม กล้าทำ กระตุ้นให้นักเรียนได้ใช้ศักยภาพสูงสุด ครูผู้เข้าอบรมจำนวน 89 คน จาก 11 โรงเรียน ครอบคลุม 8 จังหวัด

ส่งเสริมและสร้างอาชีพเพิ่มโอกาสในการทำงานแก่คนพิการ เซ็นทรัล ทำ ได้เข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการออกแบบและปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เอื้อต่อการใช้ชีวิต และส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับคนพิการ (People with Disabilities) โดยการแบ่งปันความรู้ สอนทักษะและสร้างอาชีพ เพื่อฟื้นฟูศักยภาพ และสร้างรายได้ให้กับคนพิการอย่างยั่งยืน เราจึงส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพคนพิการนอกจากร่วมกับมูลนิธิพระมหาไถ่ และเปิดโอกาสโดยการรับเป็นพนักงานประจำกว่า 80 คน ที่ ศูนย์ Contact Center ยังมีการส่งเสริมการสร้างงานให้กับสมาคมรวมใจคนพิการ จังหวัดอุดรธานี ผ่านโครงการสานตะกร้า และนำมาจำหน่ายในร้าน Good Goods ซึ่งจากปี 2022 สามารถสร้างรายได้กลับไปให้กับสมาคมได้ทั้งหมด 2,256,420 บาท ตั้งแต่ปี 2562 - 2565 สร้างอาชีพแก่คนพิการกว่า 45 คน ทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น รายได้เฉลี่ยของคนพิการในโครงการสนับสนุนอาชีพ สานตะกร้าพลาสติกอยู่ที่ 15,000 ต่อคน ต่อเดือน คนพิการเหล่านี้ นอกจากรายได้ที่มั่นคงแล้ว สิ่งสำคัญคือ การได้รับการยอมรับจากคนในสังคม การได้มีส่วนช่วยเหลือ แบ่งปันแก่ผู้อื่น ปัจจุบัน ได้มีการต่อยอด อบรมการสานตะกร้าแก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส และ ผู้สูงอายุใน จ.อุดรธานี ให้ได้มีรายได้ และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอีกด้วย

เซ็นทรัล ทำ เกิดจากการร่วมมือกันของทุกฝ่าย ลงมือทำเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องพร้อมกับหาแนวทางการอยู่ร่วมกันของการท่องเที่ยวกับท้องถิ่น ทำเพื่อให้เกิดการพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบที่จะสามารถนำไปต่อยอดให้แก่จังหวัดรอบข้าง ด้วยความแข็งแรงของชุมชน มุ่งไปสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนที่เน้นคุณค่าและความเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละพื้นที่พร้อมรับผิดชอบต่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนไปพร้อมกัน

"เซ็นทรัล ทำ" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ยกระดับคุณภาพชีวิต พัฒนาสิ่งแวดล้อม ต่อยอดสู่การท่องเที่ยวยั่งยืน