มทร.ธัญบุรี สร้างสรรค์ "คลีนบิวตี้" นวัตกรรมชะลอวัย จากอะโวคาโด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จุดประกายผู้ประกอบการ

11 Apr 2025

จากอะโวคาโดเหลือทิ้ง สู่ครีมบำรุงผิวหน้าสุดล้ำ ฝีมือนักวิจัย มทร.ธัญบุรี ผสานนาโนเทคโนโลยี พัฒนา "Anti-Aging Facial Cleansing Hydrogel และ Anti-Aging Nanoemulgel" ต้านริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ตามแนวคิดคลีนบิวตี้ และพร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก

มทร.ธัญบุรี สร้างสรรค์ "คลีนบิวตี้" นวัตกรรมชะลอวัย จากอะโวคาโด ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จุดประกายผู้ประกอบการ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องสำอางใหม่ล่าสุด A-SHINE Clean Beauty: The Anti-Aging Avocado Secret Collection ผลงานของอาจารย์นักวิจัยคณะการแพทย์บูรณาการ ผศ.ณกันต์วลัย วิศิฎศรี และ ผศ.สุรัติวดี ทั่งมั่งมี นำเสนอผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าชะลอวัย ภายใต้แนวคิดคลีนบิวตี้ เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ และกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

ผศ.ณกันต์วลัย วิศิฎศรี ได้อธิบายแรงบันดาลใจสำคัญของการพัฒนา A-SHINE Clean Beauty คือการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอย่างเปลือกและเมล็ดอะโวคาโดมาสร้างคุณค่าใหม่ด้วยนาโนเทคโนโลยีพลังงานต่ำ สกัดสารสำคัญที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวหนัง ช่วยให้ผิวพรรณคงความยืดหยุ่น ชุ่มชื้น และดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์ในชุด A-SHINE Clean Beauty ประกอบด้วย Anti-Aging Facial Cleansing Hydrogel และ Anti-Aging Nanoemulgel ซึ่งพัฒนาด้วยวิธีการที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด ปราศจากสารเคมีอันตราย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและไม่ทดสอบในสัตว์ แต่ใช้การทดสอบกับเซลล์ผิวหนังมนุษย์แทน เพื่อยืนยันความปลอดภัยอย่างแท้จริง ซึ่งมีข้อดีก็คือ ลดการทารุณกรรมสัตว์และส่งเสริมความเมตตา ทั้งยังสนับสนุนวิธีการทดสอบทางเลือกและนวัตกรรมที่ไม่ต้องใช้สัตว์ ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกที่ให้ความสบายใจในการเลือกซื้อแก่ผู้บริโภค

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ A-SHINE Clean Beauty ยังเลือกใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติแทนน้ำหอมสังเคราะห์ ที่มีกลิ่นอ่อนโยน พร้อมคุณสมบัติบำรุงผิวอย่างล้ำลึก รวมทั้งมีกระบวนการผลิตที่เน้นการใช้พลังงานต่ำ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามแนวทางคลีนบิวตี้ที่แท้จริง ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะด้านการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน และการใช้ประโยชน์จากระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน

ความสำเร็จของผลงานดังกล่าว ยังส่งต่อองค์ความรู้และแรงบันดาลใจสู่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เข้าถึงง่าย สามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ในชุมชนให้เกิดมูลค่าเพิ่มได้ ที่สนับสนุนการสร้างงานที่มีคุณค่าและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ด้าน ผศ.สุรัติวดี ทั่งมั่งมี อธิบายเสริมว่า ผลิตภัณฑ์ A-Shine Cream ได้ยื่นขออนุสิทธิบัตรแล้ว ยืนยันถึงความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของ มทร.ธัญบุรี ที่มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม และได้นำเสนอในงาน "RMUTT IP & Business Matching พลิกไอเดียสู่ตลาด สร้างโอกาสสู่อนาคต" ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัยและภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ

"ผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ มีการเทียบเคียงเปรียบเทียบคุณสมบัติมากมาย เนื่องจากเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ง่าย ทั้งรีวิวจากผู้ใช้งานจริง บทความวิเคราะห์ และข้อมูลจากแบรนด์โดยตรง ด้วยความเข้าใจในลักษณะของผู้บริโภคยุคใหม่นี้เอง เราจึงมุ่งเน้นรายละเอียดที่รอบด้าน ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เราจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา ซึ่งได้รับการพัฒนาอย่างพิถีพิถัน เพื่อเป็นทางเลือกใหม่และสร้างความพึงพอใจได้ และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มผู้บริโภค กลุ่มชุมชนและภาคธุรกิจต่อไป ผู้สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาและติดตามความก้าวหน้าได้ที่เพจคณะการแพทย์บูรณาการ มทร.ธัญบุรี https://www.facebook.com/IMXRMUTT"ผศ.สุรัติวดี กล่าวสรุป.

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit