เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความร่วงโรยไม่เพียงแค่ส่งผลต่อผิวพรรณ แต่ยังส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงด้วย โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เข้าสู่ภาวะเสื่อมถอยของวัยเจริญพันธุ์และมักประสบปัญหาภาวะมีบุตรยากตามมา เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตอนุมูลอิสระมากขึ้น ขณะเดียวกัน ระบบการป้องกันอนุมูลอิสระในร่างกายเริ่มทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ได้ หลักการสำคัญคือ อนุมูลอิสระสามารถทำลายเซลล์ในร่างกายได้ โดยเฉพาะเซลล์ไข่ในผู้หญิง การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือการเลือกเสริมสารต้านอนุมูลอิสระเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสุขภาพที่สามารถช่วยลดผลกระทบจากอนุมูลอิสระได้
ครูก้อย นัชชา ลอยชูศักดิ์ ครูวิทยาศาสตร์ผู้ก่อตั้งเพจให้ความรู้เตรียมตั้งครรภ์ BabyAndMom.co.th ยื่นหนึ่งในใจผู้มีบุตรยาก ได้รวบรวมรายงานวิจัยหลายฉบับที่ศึกษาเกี่ยวกับ 'สารต้านอนุมูลอิสระ' เช่น สารสกัดซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase; SOD), นิโคตินามายด์โมโนนิวคลีโอไทด์ (Nicotinamide Mononucleotide; NMN), แอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) และ เรสเวอราทอล (Resveratrol) ซึ่งมีผลการศึกษาวิจัยรายงานว่าสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้มีส่วนช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมีนัยสำคัญ
โดย ครูก้อย นัชชา ได้ให้ข้อมูลผ่านในรายการ Research talk ทาง YouTube ช่อง : BabyandMom.co.th ว่า สารสกัดซูปเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase) หรือ SOD เป็นเอนไซม์ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานภายในเซลล์ โดยเฉพาะในไมโตคอนเดรีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ และช่วยเสริมภาวะเจริญพันธุ์ อ้างอิงรายงานวิจัยเรื่อง The role of superoxide dismutase on pregnancy rates of women undergoing intrauterine insemination จาก Udayana University, Bali, Indonesia ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Bali Medical Journal ปี 2017 ได้ศึกษาเกี่ยวกับผลของ SOD ต่ออัตราการตั้งครรภ์ในสตรีที่ได้รับการฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (Intrauterine Insemination หรือ IUI) ซึ่งมีรายงานผลการศึกษาพบว่า กลุ่มที่ได้รับ SOD มีอัตราการตั้งครรภ์ 20% เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่มีอัตราการตั้งครรภ์เพียง 5% และมีการตอบสนองของรังไข่ดีขึ้น ทำให้จำนวนฟองไข่ (Follicles) เพิ่มขึ้น 58.8% ในกลุ่มที่ได้รับ SOD เมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่เพิ่มขึ้นเพียง 41.2% พร้อมทั้งเยื่อบุโพรงมดลูกในกลุ่มที่ได้รับ SOD มีความหนาเกิน 10 มม. ถึง 79.2% เทียบกับกลุ่มควบคุมที่มีเพียง 20.8%
ครูก้อย นัชชา กล่าวเสริมว่า นิโคตินามายด์โมโนนิวคลีโอไทด์ (Nicotinamide Mononucleotide; NMN) เป็นต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่มีสารประกอบที่เป็นอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูเซลล์ โดยช่วยเพิ่มระดับของ NAD+ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) ซึ่งเป็นโคเอนไซม์ที่สำคัญในกระบวนการสร้างพลังงานในร่างกาย โดยมีรายในงานวิจัยเรื่อง NAD+ Repletion Rescues Female Fertility during Reproductive Aging ซึ่งเป็นงานวิจัยร่วมทำด้วยกันทั้งประเทศ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอเมริกา ตีพิมพ์ในวารสาร Cell reports ปี 2012 ศึกษาเกี่ยวกับการให้ nicotinamide mononucleotide (NMN) ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นของ NAD+ ต่อการฟื้นฟูคุณภาพของเซลล์ไข่ในหนูทดลองที่แก่ พบว่า NMN ช่วยฟื้นฟูคุณภาพของเซลล์ไข่ในหนูทดลองที่มีอายุมากขึ้น โดยหนูที่ได้รับ NMN แสดงอัตราการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้นและคุณภาพของตัวอ่อนที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของ NMN ในการเพิ่มความสามารถในการเจริญพันธุ์
อีกหนึ่งสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการชะลอวัยนั่นคือ แอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่สามารถพบได้ในอาหารธรรมชาติที่มีสีแดง เช่น สาหร่ายสีแดง Haematococcus pluvialis โดยแอสต้าแซนธินมีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และป้องกันการเกิดริ้วรอย อ้างอิงงานวิจัยจาก Department of Anatomy, Jilin Medical University, China ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports ปี 2022 พบว่าแอสต้าแซนธินสามารถลดความเสียหายของเซลล์ไข่จากการกระตุ้นของสาร BPA (Bisphenol-A) ซึ่งเกิดจากการใช้พลาสติกในการบรรจุภัณฑ์ โดยการรับประทานแอสต้าแซนธินสามารถช่วยลดอนุมูลอิสระที่เกิดจากสาร BPA และส่งผลให้การพัฒนาของถุงหุ้มไข่และเซลล์ไข่ดีขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ยังมีการศึกษาถึงสารต้านอนุมูลอิสระ เรสเวอราทอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มโพลีฟีนอลที่พบมากในองุ่นแดง ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยเรื่อง "Resveratrol Treatment Induces Mito-miRNome Modification in Follicular Fluid from Aged Women with a Poor Prognosis for In Vitro Fertilization Cycles" ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Diversity Preservation International ปี 2023 ที่ได้ทำการศึกษาผลของ Resveratrol ต่อคุณภาพของเซลล์ไข่และอัตราการตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มีบุตรยาก พบว่า Resveratrol ช่วยเพิ่มคุณภาพของเซลล์ไข่และเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ในผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยาก โดยการรับประทาน Resveratrol ก่อนทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) 3 เดือน ช่วยเพิ่มคุณภาพถุงไข่และไข่ที่พร้อมปฏิสนธิ โดยพบว่า คุณภาพของถุงไข่ (Follicle) เพิ่มขึ้น 8.6% และไข่ที่อยู่ในระยะ Metaphase II (MII) ซึ่งเหมาะสมต่อการปฏิสนธิ เพิ่มขึ้น 5.5% อีกทั้งยังมีอัตราการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นถึง 50%
กล่าวโดยสรุปจากรายงานวิจัยที่กล่าวมาข้างต้น สารสกัดซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเทส (Superoxide Dismutase; SOD), นิโคตินามายด์โมโนนิวคลีโอไทด์ (Nicotinamide Mononucleotide; NMN), แอสต้าแซนธิน (Astaxanthin) และ เรสเวอราทอล (Resveratrol) ล้วนมีบทบาทสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระในเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงเซลล์ไข่ และระบบสืบพันธุ์ด้วย
ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม มะนาว มะกรูด รวมถึงผักผลไม้ เช่น ผักเคล ผักโขม กะหล่ำม่วง มะเขือเทศ บีทรูท แครอท ทับทิม และธัญพืช เช่น ถั่วต่างๆ งาดำ ควินัว แฟล็กซีด หรือเสริมสารต้านอนุมูลอิสระในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเพิ่มความสะดวกในการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตามผู้บริโภคควรเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ได้มาตราฐานการผลิตและน่าเชื่อถือและอ่านฉลากเพื่อศึกษาสารสกัดและส่วนผสมต่างๆ เพื่อความปลอดภัย รวมถึงหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และดูแลสุขภาพในองค์รวม สามารถช่วยให้ร่างกายมีสมดุลและลดผลกระทบที่เกิดจากอนุมูลอิสระได้ โดยสามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ได้ทางรายการ Research talk ทาง YouTube ช่อง: BabyandMom.co.th หรือติดตามความรู้เตรียมตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยากทางเฟซบุ๊กเพจ: https://www.facebook.com/BabyAndMom.co.th หรือแอดไลน์ปรึกษาครูก้อยได้ที่ Line official : @babyandmom.co.th
ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit