บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว รวมไปถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, MAKAVELIC, EMJOI, @HOME, และแบรนด์ใหม่ล่าสุด VALERA, และ ELCHIM รายงานผลการดำเนินงานปี 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการดำเนินงานประจำปี 2567 มีรายได้จากการขาย 1,427.11 ล้านบาท รายได้ลดลงร้อยละ 10.13 จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจาก- ภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศมีการชะลอตัว ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย นอกจากนี้การแข่งขันจากคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามมีสัดส่วนลดลงร้อยละ 30.26 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดโดยนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ รวมถึงการออกสินค้าแบรนด์ใหม่ที่ได้รับการพัฒนาและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลีในช่วงปลายปี 2567 ที่เหมาะสำหรับช่างทำผมมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป - สำหรับรายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.30 จากปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในประเทศ ร้อยละ 117.60 โดยเป็นผลจากการเติบโตของยอดขายในประเทศ ที่มีการพัฒนาสูตรการผลิตและออกผลิตภัณฑ์ใหม่ระหว่างปีให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการขยายตลาดกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ช่องทางออนไลน์ และร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) ทำให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น - นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศจากบริษัทร่วมทุน (Joint venture) มาเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย (Authorized distributor) ในบางประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้รายได้จากการขาย จากเดิมรับรู้รายได้จากยอดขายจากลูกค้า (End customer) เป็นการรับรู้รายได้จากการขายให้ตัวแทนจัดจำหน่ายซึ่งเป็นราคาขายส่ง (Wholesale price)ขณะที่ต้นทุนขายรวมปี 2567 มีมูลค่า 612.84 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.94 ของรายได้จากการขาย สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.90 เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายสินค้าในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะการแข่งขันในตลาด และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับการขายสินค้ารายการพิเศษ (Big Lot) ให้กับลูกค้ารายหลักในต่างประเทศ
สำหรับค่าใช้จ่ายในการบริหารปี 2567 มีมูลค่า 369.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.19 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงระบบเพื่อรองรับการขยายตัวและการเติบโตของกลุ่มบริษัท รวมไปถึงค่าใช่จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการปิดบริษัทร่วมทุนในประเทศฟิลิปปินส์ และ Unrealized loss จากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายคลังสินค้าและสำนักงานลดลงอย่างต่อเนื่องตามแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัท
จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิ (Net Profit) สำหรับปี 2567 มูลค่า 20.46 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 1.37 เมื่อเทียบกับรายได้รวม โดยมีกำไรเพิ่มขึ้น 43.36 ล้านบาท
ในวันเดียวกันนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 29 เมษายน 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 (การให้สิทธิดังกล่าวของบริษัทยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากต้องรออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น)
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทยังมองหาโอกาสขยายธุรกิจทุกรูปแบบ ทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงแผนการจับมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มความสามารถในการพัฒนาธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจให้เติบโต เพื่อเสนอผลิตภัฑณ์ใหม่ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit