บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH ร่วมกับ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) จัดโรดโชว์นำเสนอข้อมูลธุรกิจ และแผนงานของบริษัทฯ ก่อนนำเสนอขาย IPO ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 50 ล้านหุ้น พร้อมเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) ของ "WealthX" เพื่อสนับสนุนแผนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของบริษัทฯ
นายธณัฐ เตชะเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลทีเอ็มเอช จำกัด (มหาชน) หรือ LTMH ผู้ดำเนินธุรกิจด้านสื่อด้านการเงิน การลงทุน และธุรกิจ ที่มีสื่อออนไลน์ชื่อดังอย่าง "ลงทุนแมน" เป็นหนึ่งในเรือธงของบริษัทฯ พร้อมด้วย นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการ
จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย ร่วมนำเสนอข้อมูลธุรกิจสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 50 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นหลังการ IPO โดยการนำเสนอข้อมูลดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้อง 603 ชั้น 6 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
การนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อให้ผู้ลงทุน สามารถเข้าใจถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ LTMH ที่ประกอบด้วย ธุรกิจสื่อและแพลตฟอร์มสื่อ (ออนไลน์) และธุรกิจออฟไลน์ เพื่อเน้นย้ำให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ (Ecosystem) ที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ รวมทั้ง LTMH ยังได้เผยถึงกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทฯ ผ่านแผนธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) ภายใต้ชื่อ "WealthX" ที่จะช่วยให้คนไทยสามารถยกระดับทางการเงิน การลงทุนได้มากขึ้นอีกในอนาคต
ด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ ทันเหตุการณ์ และการทำเนื้อหาที่มีความซับซ้อนในรูปแบบที่เข้าใจได้ง่ายส่งผลให้จำนวนผู้ติดตาม (Followers) รวมทุกช่องทาง Facebook, Youtube, Instagram, X, Tiktok, Line และ Blockdit จำนวน 4.87 ล้านคน ในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 8.32 ล้านคน ในปี 2567 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 19.61 ต่อปี ในช่วงปี 2564 - 2567 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ สำหรับปี 2564 - 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 118.06 ล้านบาท 173.90 ล้านบาท 225.77 ล้านบาท และ 231.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ร้อยละ 25.20 ในช่วงปี 2564 - 2567 และจากการที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของบริษัทฯ เป็นต้นทุนพนักงาน ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น อัตรากำไรต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้นหากมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 50.55% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 15% แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรที่สูง และมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต
โดยการเข้าระดมทุน และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ทาง LTMH มีวัตถุประสงค์หลัก คือการขยายการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีบริหารความมั่งคั่ง (WealthTech) ของ "WealthX" ที่สถานะปัจจุบัน ได้ทำการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน และตราสารหนี้ ไปแล้วเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา และนอกจากนี้ การระดมทุนยังมีจุดประสงค์เพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ที่กู้ยืมมาลงทุนในหุ้น บลจ.ทาลิส และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทฯ และบริษัทย่อยด้วย
การนำเสนอข้อมูลของ LTMH ในครั้งนี้ นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงรากฐานขององค์กรที่แข็งแกร่งแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงปัจจัยที่จะช่วยทำให้ LTMH สามารถเดินหน้าขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบริษัทฯ และสร้างโอกาสทางการเติบโตในอนาคตได้ ผ่านการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ WealthTech ที่เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ทันสมัยและเป็นกลุ่มตลาดที่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตอยู่ในระดับสูง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit