นายเกียรติวิสุทธิ์ เพ็ชรหมื่นไวย ผู้อำนวยการเขตบางกอกใหญ่ กทม. กล่าวกรณีมีข้อเสนอแนะให้เพิ่มจำนวนประปาหัวแดงในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ว่า สำนักงานเขตฯ ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานีดับเพลิงและกู้ภัย (สดพ.) ธนบุรี และสำนักงานประปาสาขาบางกอกน้อย โดยตรวจสอบความพร้อมใช้งานของหัวจ่ายน้ำดับเพลิง รวมถึงพิจารณาจุดตำแหน่งติดตั้งเพิ่มเติมในตำแหน่งที่เหมาะสมตามแนวทางของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ดังนี้ มีท่อเมนประปาพาดผ่าน ขนาดไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตร (มม.) หรือ 4 นิ้ว และ 150 มม. หรือ 6 นิ้ว ตำแหน่งติดตั้งต้องไม่อยู่ใกล้หัวจ่ายน้ำดับเพลิงเดิม โดยในถนนสายหลักต้องห่างกันอย่างน้อย 500 เมตร และในบริเวณชุมชนต้องห่างกัน 100-150 เมตร และต้องไม่อยู่ติดกับแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือใกล้คลองกรณีมีเขื่อน (หากสามารถนำน้ำจากแหล่งดังกล่าวมาใช้ในการระงับเหตุอัคคีภัยได้) รวมทั้งได้รับความยินยอมให้ติตตั้งหน้าบ้านจากเจ้าของกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างหรือที่ดิน ในกรณีติดตั้งในพื้นที่ส่วนบุคคล และต้องไม่อยู่ในพื้นที่ไม่เหมาะสม เช่น ทางแคบซึ่งไม่สามารถใช้งานหัวจ่ายน้ำดับเพลิงได้โดยสะดวก หรืออยู่ในแนวท่อลอย เป็นต้น ทั้งนี้ หากบุคคลหรือนิติบุคคลมีความประสงค์ติดตั้งหัวจ่ายน้ำดับเพลิง สามารถยื่นคำร้องได้ที่ฝ่ายปกครอง ชั้น 2 สำนักงานเขตบางกอกใหญ่ ในวันเวลาราชการ เพื่อกำหนดแผนการออกสำรวจร่วมกับ สดพ.ธนบุรี สำนักงานประปาสาขาบางกอกน้อย และผู้แสดงความประสงค์ต่อไป
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวว่าการสำรวจความพร้อมใช้งานของประปาหัวแดงเป็นภารกิจสำคัญประการหนึ่งที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุกแห่งให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งน้ำหลักที่สามารถนำมาใช้สนับสนุนการดับเพลิงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ทันที และจากการสำรวจบริเวณถนนอิสรภาพ ข้างวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ พบว่ามีประปาหัวแดงจำนวน 3 หัว สามารถใช้งานได้ทั้งหมด ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ สปภ. ได้ออกสำรวจอย่างต่อเนื่องและเป็นภารกิจประจำ หากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยตรวจพบประปาหัวแดงที่มีสภาพชำรุดไม่พร้อมใช้งาน จะประสานและจัดส่งข้อมูลให้การประปานครหลวง (กปน.) เพื่อปรับปรุงแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนการติดตั้งประปาหัวแดงเพิ่มเติมในพื้นที่เขตบางกอกใหญ่ ขณะนี้ กทม. และ กปน. อยู่ระหว่างพิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมอีก 8 หัว เนื่องจากเป็นย่านโบราณสถาน มีตึกแถว และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน หรือเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ สามารถแจ้งเหตุได้ที่ โทรศัพท์สายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit