อมตะ วีเอ็น แจงปี 67 กวาดรายได้ 5 พันลบ. ตั้งหมุดหมายขายที่ดินปี 68 โต 40%

06 Mar 2025

"อมตะ วีเอ็น" เผยผลประกอบการ ปี 2567 เติบโตจากการขายที่ดินเพิ่ม 40% กวาดรายได้รวม 5,379.40 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 100.06 ล้านบาท แจงยอด Backlog ที่ดินรอโอน 22 เฮกเตอร์ หรือ 130 ไร่ ตั้งเป้าปี 2568 โตเพิ่ม 30-40% จากการขายที่ดินในนิคมฯ พร้อมวางงบลงทุน 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เล็งขยายพอร์ตการลงทุนในเวียดนามต่อยอดธุรกิจ

อมตะ วีเอ็น แจงปี 67 กวาดรายได้ 5 พันลบ. ตั้งหมุดหมายขายที่ดินปี 68 โต 40%

นางสมหะทัย พานิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 5,379.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 100.06 ล้านบาท โดยยอดขายที่ดินส่วนใหญ่ มีแหล่งรายได้มาจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง ซึ่งเป็นทำเลที่ลูกค้ามีความต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ ขณะเดียวกัน คาดว่าการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น (ภาคใต้ของเวียดนาม) มีมูลค่าใกล้เคียงกับอมตะซิตี้ ฮาลอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีค่าแรงสูงและมีราคาขายที่ดินสูง 1 เท่า โดย ณ สิ้นปี 2567 อมตะวีเอ็นมียอดขายที่ดินรอโอน (Backlog) ที่ 22 เฮกเตอร์ หรือประมาณ 130 ไร่ คาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 68 และส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568

สำหรับในปี 2568 ถือเป็นปีครบรอบ 30 ปี อมตะ วีเอ็น โดยทางบริษัทตั้งเป้าการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามไว้ที่ 100-110 เฮกเตอร์ เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่สามารถขายที่ดินได้ 75 เฮกเตอร์ เติบโตเพิ่มขึ้น 30-40% โดยสัดส่วนหลักของการขายที่ดินจะมาจากนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง (ภาคเหนือของเวียดนาม) ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ คิดเป็น 60-70% ของยอดขายทั้งหมด

ปัจจุบัน อมตะ วีเอ็น มีที่ดินรองรับการขายใน 2 นิคมหลัก ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ฮาลอง มีที่ดินรวม 714 เฮกเตอร์ และได้ขายไปแล้วประมาณ 50% โดยเริ่มพัฒนาที่ดินเฟส 3 เพื่อรองรับการขายอย่างต่อเนื่อง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ลองถั่น ที่มีที่ดินรวม 410 เฮกเตอร์ ซึ่งยังเหลือที่ดินขายอีกประมาณ 70-80%

ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยบวกในการลงทุนในเวียดนาม เกิดจากการปรับตัวภายในประเทศที่ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการขออนุญาตต่างๆ รวมถึงสิทธิทางภาษีที่เอื้อต่อการผลิตเพื่อการส่งออก ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และการเป็นจุดศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาคทำให้เวียดนามยังคงเป็นหมุดหมายปลายทางหลักของนักลงทุนจากต่างประเทศ เพื่อขยายการลงทุนใหม่

โดยทาง อมตะ วีเอ็น ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ขณะนี้ได้มีการศึกษาโครงการนิคมใหม่ที่คาดว่าจะไม่ได้ใบอนุญาตภายในปี 2568 ซึ่งหากได้รับใบอนุญาตในปีนี้ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 15-20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ในปี 2569 บริษัทจะลงทุนทั้งในเรื่องที่ดินและค่าก่อสร้าง โดยมีแผนจะพัฒนานิคมใหม่ขนาดประมาณ 500 เฮกเตอร์ หรือประมาณ 3,000 ไร่ การย้ายฐานการผลิตและผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก

"แม้เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศ แต่เวียดนามยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีน โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ที่มีการใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น และต้องการพื้นที่ที่มีความสะดวกในการขนส่ง" นางสมหะทัย กล่าวเพิ่มเติม

อมตะ วีเอ็น มุ่งมั่นที่จะพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและรองรับการลงทุนจากหลากหลายอุตสาหกรรมต่อไปในอนาคต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้และขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง

อมตะ วีเอ็น แจงปี 67 กวาดรายได้ 5 พันลบ. ตั้งหมุดหมายขายที่ดินปี 68 โต 40%