เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม "หางประทัดแก้บน" จากความสำเร็จนับพันล้านของผู้ศรัทธา "ไอ้ไข่" วัดเจดีย์ ถูกทิ้งไร้ประโยชน์นำมาสานเป็น "กระเป๋า" อีกหนึ่งความสำเร็จภายใต้โครงการวิจัย "ศรีชล" ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ที่ต้องการสร้างรายได้ หวังยกระดับเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
ที่วิสาหกิจชุมชนคนรักสิ่งแวดล้อม บ้านเขาทราย ตำบลเปลี่ยน อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้นำโครงการวิจัยการจัดการทุนทางวัฒนธรรมฐานความเชื่อโดยรอบสันทรายโบราณเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอสิชล นครศรีธรรมราช เข้าร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วัดเจดีย์ หรือที่รู้จักในชื่อวัดไอ้ไข่ นำเอาวัสดุที่แต่เดิมนั้นเป็นปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีที่มาจากการแก้บนจากความสำเร็จของผู้คนที่มีความศรัทธาต่อไอ้ไข่วัดเจดีย์ เมื่อมีความสำเร็จตามการบนบานแล้วได้หลั่งไหลมาประกอบพิธีแก้บนด้วยการจุดประทัด สิ่งที่เหลือจากการจุดประทัดคือหางประทัดหลายเป็นเครื่องหมายแห่งความสำเร็จที่ถูกทิ้งกลายเป็นขยะจำนวนมากเป็นภาระการจัดการของวัด
แต่ล่าสุดปัญหานี้กำลังจบลงหางประทัดจำนวนมากกำลังนำมาถูกให้ความหมายจากที่มาของความสำเร็จของผู้คนที่มีความศรัทธา หลายเป็นผลิตภัณฑ์จากมูลค่านับพันล้าน แต่มีราคาจำหน่ายแค่หลักพันบาท เนื่องจากทุกคนที่มาจุดประทัดแก้บนมีความหลากหลายส่วนใหญ่มีความสำเร็จต่อการแก้บนมูลค่าหลายล้านบาทเช่นความสำเร็จทางธุรกิจ การซื้อขายที่ดิน โชคลาภ หางประทัดจากความสำเร็จถูกนำมาเป็นกระเป๋าสมัยใหม่จากฝีมือชาวบ้านสมาชิกในชุมชนร่วมกันผลิตออกมาได้อย่างสวยงาม แปลกใหม่ไม่เหมือนที่ไหน
สุพรรณา แก้วเถื่อน ประธานวิสาหกิจชุมชนคนรักสิ่งแวดล้อมบ้านเขาทราย ระบุว่าแต่เดิมชาวบ้านกังวลว่าการไปนำเอาหางประทัดเหล่านี้หรือสิ่งที่ของเหลือใช้ในวัดมานอกวัด ไอ้ไข่จะหวงแต่มีผู้นำท้องถิ่น และวัดเจดีย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้นำองค์ความรู้วิธีคิดใหม่ๆการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็นกระเป๋าจากหางประทัดจึงเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างคุณค่า สร้างความหมายจากที่มาได้อย่างน่าทึ่งและเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ไปครอบครอง
"กระเป๋า 1 ใบใช้หางประทัด 999 ชิ้น แต่ละชิ้นมีความสำเร็จมาแล้วทั้งหมด หากไม่สำเร็จไม่มีใครมาแก้บนแน่หากตีเป็นมูลค่าต่อชิ้น มีความสำเร็จในระดับหลักล้าน 999 ชิ้นมากกว่าพันล้านแน่ หรืออาจหลายพันหรือเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ ความหมายจากความสำเร็จเหล่านั้นมาเป็นกระเป๋าให้ทุกคนที่ครอบครองมีกำลังใจ"
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ปรัชญา กฤษณะพันธ์ อาจารย์ประจำสำนักวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ สาขาการออกแบบภายใน ม.วลัยลักษณ์ ระบุว่าการวิจัยการจัดการทุนทางวัฒนธรรม ได้รับการอุดหนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อนำไปสู่การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจของชุมชนผ่านความเชื่อ ความศรัทธา วัฒนธรรมของท้องถิ่น หางประทัดที่อยู่ในวัดแต่เดิมถูกทิ้ง เราจึงนำความสำเร็จของผู้คนมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เราจึงเข้าทำการงานกับชุมชน แต่เดิมมีการใช้พลาสติคเราจึงเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนจึงกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ
"สิ่งแรกคือทำให้เห็นภาพให้เกิดขึ้นจริงการสร้างกระเป๋าไม่ได้มีมูลค่าอะไรจากหางประทัด หางประทัดที่ถูกจุดแล้วอาจมีค่าแค่กิโลกรัมละ 10 บาท แต่เมื่อมาสร้างเป็นมูลค่าตามความหมายแต่เดิมคือความสำเร็จแต่ละชิ้นมารวมกันเป็นพันล้านหมื่นล้าน หลายร้อยชิ้นมารวมเป็นกระเป๋า 1 ใบ ความหมายเหล่านั้นจึงเป็นส่วนส่งเสริมมูลค่าเดิมให้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี แต่มีราคาซื้อขายจากฝีมือชาวบ้านแค่หลักพันบาท" ทีมนักวิจัยรายนี้กล่าว.
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit