เจแอลแอล (NYSE: JLL) ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก ฉลองการดำเนินธุรกิจครบรอบ 35 ปี ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันยาวนานของบริษัทสู่ความเป็นเลิศในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และเติบโตไปพร้อมกับวิวัฒนาการของภาคธุรกิจอสังหา ฯ ในประเทศไทยตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
โครงการอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทยในยุคแรก ๆ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีรูปแบบการใช้งานเพียงอย่างเดียว และค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่มีการผสานอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ เข้าด้วยกัน จนกระทั่งในปัจจุบัน ตลาดอสังหา ฯ เดินทางเข้าสู่ยุคใหม่ที่มีการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสที่นำเสนอการใช้งานหลากหลายรูปแบบเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ โครงการที่ล้ำสมัยเหล่านี้ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง สิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานระดับโลก ทั้งหมดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาของผู้เช่าและผู้ใช้สอยพื้นที่ทั่วไป
วิสัยทัศน์ของเจแอลแอลต่ออนาคตวงการอสังหาริมทรัพย์
เจแอลแอลเล็งเห็นแนวโน้มในอนาคตและได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของตลาดอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ทั่วโลก พร้อมคาดการณ์ผลกระทบหลักต่อการพัฒนาธุรกิจอสังหา ฯ ในประเทศไทย ทั้งนี้บริการต่าง ๆ ของบริษัทจะมีความสอดคล้องไปกับ "อนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์" ซึ่งประกอบด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมในหลายมิติ โดยบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนเป็นอันดับแรก เนื่องจากกำลังเป็นหัวข้อหลักในการสนทนาและกระบวนการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจอสังหา ฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เจแอลแอลมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนโดยการลงมือปฏิบัติในเห็นเป็นตัวอย่าง ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถให้คำปรึกษาเพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนทั้งในด้านธุรกิจอสังหาฯ พร้อมกับการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าอย่างยั่งยืน
เจแอลแอลกำลังเตรียมพร้อมสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 5 ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการกำหนดรูปแบบอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ในอนาคต บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญและน้อมรับการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ กำลังให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องด้วยบริษัทฯ ตระหนักดีว่าการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและ AI ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถช่วยให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานและยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งานทั่วไปได้จริง
นอกจากนี้ เจแอลแอลยังมุ่งส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนภายในองค์กรและตอบสนองความต้องการในสถานที่ทำงานเพื่อเสริมสร้างความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการส่งเสริมความตระหนักรู้ถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำคัญของปัจจัยด้านสังคม เจแอลแอลจึงกำหนดวิสัยทัศน์และให้คำแนะนำแก่ลูกค้าในโลกของการทำงานยุคใหม่ ที่ซึ่งพนักงานในธุรกิจต่าง ๆ สามารถกำหนดรูปแบบเวลาและสถานที่ทำงานของพวกเขาเองได้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของผู้คนที่โน้มเอียงไปสู่การสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
การวิเคราะห์ข้อมูลนับว่ามีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ของเจแอลแอล โดยบริษัทฯ กำลังบุกเบิกความเป็นผู้นำทางความคิดเกี่ยวกับ เมือง กลุ่มธุรกิจเฉพาะสาขา และกระแสเงินทุน ซึ่งความสามารถในการเข้าถึงฐานข้อมูลที่ครอบคลุมกว่าคู่แข่งทั้งในไทยและทั่วภูมิภาค ทำให้เจแอลแอลสามารถสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจบนพื้นของฐานข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความสำเร็จของเจแอลแอล ประเทศไทย
เมื่อพิจารณาจากความสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมา เจแอลแอล ประเทศไทย ก้าวขึ้นมาในฐานะผู้นำในหลายภาคธุรกิจ สำหรับภาคธุรกิจตลาดทุน บริษัทฯ ได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุน การปล่อยเช่าและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี 2559-2566 โดยฝ่ายตลาดทุนของบริษัทฯ สามารถปิดการขายที่มีความซับซ้อนและมูลค่าสูงได้สำเร็จหลายโครงการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่งให้บริษัทฯ ขึ้นแท่นบริษัทที่ปรึกษาอันดับหนึ่งสำหรับลูกค้าที่กำลังต้องการซื้อที่ดินหรือสินทรัพย์ กลยุทธ์การขายและปล่อยเช่าสินทรัพย์ มองหาพันธมิตรร่วมทุน และบริการจัดหาแหล่งเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ
สำหรับภาคธุรกิจโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม เจแอลแอลได้ปิดการขายที่ดินหลายแปลงขนาดรวมประมาณ 1,600 เฮกเตอร์ (10,000 ไร่) ในช่วงปี 2561-2566 สำหรับภาคธุรกิจโรงแรมและบริการต้อนรับ เจแอลแอลได้เป็นตัวแทนซื้อขาย โรงแรมถึง 54 แห่ง รวมมูลค่ากว่า 66,000 ล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งรวมถึงการเจรจาซื้อขายโรงแรมมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ตอกย้ำในด้านความเป็นผู้นำ ความเชี่ยวชาญ และความสำเร็จในภาคธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
ในฐานะผู้นำตลาดตัวจริงในด้านการจัดการอสังหาริมทรัพย์และสินทรัพย์ เจแอลแอลได้บริหารพอร์ตโฟลิโอสินทรัพย์รวมมากกว่า 7.1 ล้านตารางเมตรทั่วประเทศไทย ซึ่งรวมถึงโครงการระดับโลกที่เพิ่งเปิดใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้อย่าง One Bangkok นอกจากนี้แผนกงานบริการวิจัยและให้คำปรึกษาของบริษัทได้รับรางวัล SEA Research Team of The Year ประจำปี 2567 จากทาง RICS (Royal Institution of Chartered Surveyors) และได้ให้คำปรึกษากับโครงการมากกว่า 360 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมเกินกว่า 500,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 ถึงปัจจุบัน
ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของเจแอลแอล ประเทศไทย ยังเห็นได้อย่างชัดเจนจากสำนักงานในกรุงเทพฯ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานระดับ LEED Gold ด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานอันยอดเยี่ยม และเป็นสำนักงานแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้การรับรอง WELL Platinum ซึ่งถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของพื้นที่สำนักงานที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพของผู้คนเป็นหลัก นอกจากนี้ เจแอลแอล ประเทศไทย ยังผ่านการรับรอง Great Place to Work(R) โดยพนักงาน 87% ยืนยันว่ามีประสบการณ์เชิงบวกในสำนักงานใหญ่ การยกย่องเหล่านี้สะท้อนถึงความทุ่มเทของเจแอลแอลในการสร้างวัฒนธรรมของสถานที่ทำงานได้อย่างโดดเด่น ผ่านการให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
มุมมองบริการรูปแบบใหม่
เจแอลแอลกำลังปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการที่กำลังเปลี่ยนแปลงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ผ่าน 4 แผนงานหลัก ได้แก่ บริการด้านกลยุทธ์การจัดพื้นที่สำนักงานและการบริหารการเปลี่ยนแปลง (Workplace Strategy & Change Management) เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้สำนักงานสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และสนับสนุให้การเปลี่ยนแปลงดำเนินไปอย่างราบรื่น ผ่านการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการที่แท้จริงของพนักงานและการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปรับเปลี่ยนได้ที่ช่วยเพิ่มกำลังผลผลิต นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้นำเสนอบริการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Energy & Sustainability Services: ESS) เพื่อสนับสนุนลูกค้าบนเส้นทาง ESG โดยนำเสนอโซลูชันที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาแนวทางปฏิบัติงานที่ยั่งยืนและชี้แนะถึงวิธีการบรรลุเป้าหมายด้าน ESG อย่างเป็นรูปธรรม
ฝ่ายปรับปรุงและพัฒนาสินทรัพย์ (Asset Enhancement) จะช่วยแก้ไขกลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐานตลาด โดยปรับปรุงประสิทธิภาพและปรับคุณสมบัติให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เช่าที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มมูลค่าพอร์ตโฟลิโอให้สูงสุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงนี้ และเพื่อสนับสนุนบริการเหล่านี้ บริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Tech Advisory) ของเจแอลแอลจะช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีสำหรับนำไปปรับใช้ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการดำเนินงานและการบริหารทรัพย์สิน
แผนงานทั้ง 4 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเจแอลแอลในการนำเสนอนวัตกรรมที่พร้อมรับมือกับอนาคตเพื่อเพิ่มมูลค่าในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเจแอลแอลวางตำแหน่งบริษัทฯ ในฐานะผู้นำด้านการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายและการเปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการนำเสนอบริการที่ครอบคลุมซึ่งตอบโจทย์ด้าน กลยุทธ์ในที่ทำงาน ความยั่งยืน การยกระดับสินทรัพย์ และการใช้งานเทคโนโลยีที่เหมาะสม
นายไมเคิล แกลนซี่ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอล ประจำประเทศไทยและอินโดนีเซีย กล่าวว่า "ในโอกาสการฉลองการดำเนินงานในประเทศไทย 35 ปี เราไม่เพียงแค่มองย้อนกลับไปถึงความสำเร็จของเราเท่านั้น หากยังมุ่งหน้าสู่อนาคตที่เรากำลังสร้างสรรค์ต่อไป ความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน การนำเทคโนโลยีมาใช้ในภาคอสังหาริมทรัพย์ และโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของเจแอลแอล ทำให้เรากลายเป็นแนวหน้าของวิวัฒนาการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของวันนี้"
นายอนาวิล เจียมประเสริฐ หัวหน้าแผนกบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษา บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (JLL) กล่าวว่า "การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้เราสามารถสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกที่แข็งแรงและครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้เรายังคงสานต่อความเป็นผู้นำทางความคิด พร้อมนำเสนอบริการงานวิจัยและให้คำปรึกษาคุณภาพสูงอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนลูกค้าของเราให้สามารถลงุทนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความท้าทายด้วยความมั่นใจ"
นอกจากการฉลองความสำเร็จในครั้งสำคัญนี้ เจแอลแอล ประเทศไทยประกาศความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์อนาคตของวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อโลกที่ดีกว่า ผ่านการนำเสนอโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ พร้อมคำแนะนำที่ดีเยี่ยมจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อลูกค้าในประเทศไทยและที่อื่น ๆ ทั่วโลก
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit