บริษัท Establishment Labs(R) (Motiva(R)) "โมติวา" ผู้นำด้านการเสริมและสร้างหน้าอก (Breast augmentation and Breast reconstruction) ประกาศความสำเร็จธุรกิจในไทยและเอเชียแปซิฟิก เติบโตด้วยตัวเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องจากจุดแข็งมากมาย อาทิ เทคโนโลยีซิลิโคนเจเนอเรชั่นที่ 6, โซลูชัน FemTech การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย, โปรแกรมการรับประกันที่ครอบคลุมและตอบสนองให้ผู้หญิงทุกคนมีทางเลือก รวมไปถึงโปรแกรมทางวิชาการที่ช่วยเพิ่มพูนเทคนิคต่าง ๆ ให้กับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง พร้อมการรักษามาตรฐานระดับสูงสุดเพื่อการเป็นผู้นำในระยะยาว
นายจอห์น ลิลเจควิสต์, Head of Commercial Operation, APAC ของบริษัท Establishment Labs(R) เผยถึงการทำตลาดของ Motiva(R) (โมติวา) ผู้เชี่ยวชาญการเสริมและสร้างหน้าอก ว่าแบรนด์เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2019 โดยเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท แม็กซิมัส เมดิคัล ตัวแทนนำเข้าและจัดจำหน่ายหนึ่งเดียวในประเทศไทย ตลอดจนการให้ความสำคัญกับแนวทางการสร้างความมั่นใจแก่คนไข้และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ด้วยการจัด Medical Education โปรแกรมฝึกอบรมทางวิชาการทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการดูแลหลังผ่าตัดแก่เจ้าหน้าที่หรือผู้ให้คำปรึกษาของสถานพยาบาลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ป่วยและสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างครอบคลุม
ปัจจัยที่ทำให้ Motiva(R) ได้รับการยอมรับในไทยและเอเชียแปซิฟิก คือความพอใจของคนไข้ที่มีต่อผลิตภัณฑ์เสริมหน้าอกเจเนอเรชั่นที่ 6 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยรุ่นแรกและรุ่นเดียวในปัจจุบัน ที่ผ่านการรับรองจากหลากหลายสถาบันทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย และหน่วยงานอาหารและยาของสหรัฐฯ (U.S. FDA) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทั้งคนไข้และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางไว้ใจ นอกจากนี้ ในวารสารทางการแพทย์ The Aesthetic Surgery Journal ได้มีการประกาศ Clinical Data อย่างเป็นทางการว่าอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน (อาทิเช่น ภาวะพังผืดเกาะรัด หรือซิลิโคนเต้านมเทียมแตก) จากตัวผลิตภัณฑ์มีต่ำกว่า 1%
อีกทั้ง ผลิตภัณฑ์ของ Motiva(R) ยังโดดเด่นด้วยคุณสมบัติที่ทั้งคนไข้และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางต่างวางใจ อย่าง (1) เทคโนโลยีพื้นผิว SmoothSilk(R)/SilkSuface(R) หรือ พื้นผิวนาโน ที่ช่วยเพิ่มความเข้ากันได้ทางชีวภาพกับร่างกาย (Improved Biocompatibility) และลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จากตัวผลิตภัณฑ์ลง อย่างเช่น ลดการเกิดแรงเสียดทานที่ก่อให้เกิดการอักเสบ และลดการเกาะของจุลินทรีย์ (2) ProgressiveGel (PLUS(R) และ ULTIMA(R)) ที่มีความยืดหยุ่นสูง พร้อมตอบรับการเคลื่อนไหวของสรีระได้เป็นธรรมชาติ ล้อไปกับหลักกายภาพศาสตร์ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อรุ่น Ergonomix(R) (3) BluSeal(R) Pigment สีฟ้าในชั้นเปลือกซิลิโคน ที่จะช่วยยืนยันว่าไม่มีเจลรั่วซึมออกมาที่ชั้นเปลือก มอบความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นในเรื่องความปลอดภัย และ (4) ชิป Qid(R) ที่ระบุหมายเลขประจำตัวของซิลิโคนเต้านมเทียมไว้ เปรียบเสมือนเครื่องเตือนความจำและช่วยอำนวยความสะดวกในการเช็คข้อมูลทางการแพทย์ให้กับศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางและคนไข้ว่าใช้ซิลิโคนรุ่นไหน ไซส์ไหน โดยนวัตกรรมเหล่านี้ เป็นลิขสิทธิ์ของแบรนด์ Motiva โดยเฉพาะ
นายจอห์น ลิลเจควิสต์ เสริมต่อถึงสิ่งที่ทำให้ Motiva(R) สร้างความแตกต่างและโดดเด่นมายาวนานกว่า 20 ปี คือวิสัยทัศน์ในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้หญิงและทุกคน Motiva(R) จึงเป็นแบรนด์เดียวที่มีโซลูชันขยายเนื้อเยื่อที่ล้ำสมัยอย่าง 'Flora(R)' ที่ตอบโจทย์ความเข้ากันได้ทางชีวภาพ (Improved Biocompatibility) จากการสร้างเต้านมแบบสองขั้นตอนด้วยตัวขยายเนื้อเยื่อ เพื่อผู้หญิงที่มีความจำเป็นหรือความต้องการในการเสริมสร้างหน้าอกใหม่ (Breast reconstruction)
"ด้วยความที่ Motiva(R) เข้าใจว่าผู้หญิงต้องการมีทางเลือกในมือของตัวเอง ดังนั้นหากวันหนึ่ง พวกเธอรู้สึกว่าการมีซิลิโคนเต้านมเทียมไม่ใช่สิ่งที่ต้องการหรือตอบโจทย์อีกต่อไป ทาง Motiva(R) ก็พร้อมตอบตอบสนองความต้องการนั้นผ่านโครงการ Women's Choice Program(R) ที่มีการซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายสำหรับการผ่าตัดเพื่อนำซิลิโคนเต้านมเทียมออก" (สำหรับคนไข้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์รุ่น Motiva Ergonomix 2(R) เท่านั้น)
ทั้งนี้ในปัจจุบัน ตลาดเสริมและสร้างหน้าอก (Breast augmentation and Breast reconstruction) ในไทยและเอเชียแปซิฟิก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้ซิลิโคนผิวหยาบและผิวเรียบ มาสู่พื้นผิวแบบ SmoothSilk(R)/SilkSuface(R) หรือ พื้นผิวนาโน Motiva(R) มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั่วทั้งภูมิภาค ในการพัฒนาโปรแกรมที่ใช้จุดแข็งของผลิตภัณฑ์เข้าไปเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ เช่น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Ergonomix 2(R) พร้อมโปรแกรม JOY(R) ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี ความปลอดภัยและโปรแกรมการรับประกัน เป็นต้น อีกทั้งในปี 2024 นี้ Motiva(R) ได้มีการขยายตลาดไปยังประเทศจีน เพื่อยกระดับบริษัทให้สามารถแข่งขันในตลาดศัลยกรรมหน้าอกในระดับสากล ซึ่งคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 13.5% ต่อปี ต่อเนื่องถึงปี 2029 นี้
"ด้วยความมุ่งมั่นต่อการพัฒนาเทคโนโลยี การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งคนไข้และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง และการเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการยกระดับคุณภาพชีวิต ทำให้ Motiva(R) มีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่อนาคตในฐานะผู้นำตลาดศัลยกรรมหน้าอกในไทยรวมถึงเอเชียแปซิฟิก" นายจอห์น ลิลเจควิสต์ เสริมสรุป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit