SCAP เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ชูดอกเบี้ย [4.50 - 5.05]% ต่อปี

19 Dec 2024

SCAP เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ชูดอกเบี้ย [4.50 - 5.05]% ต่อปี เผยนำเงินที่ได้ไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และลงทุนเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อ คาดเสนอขายระหว่างวันที่ [31 มกราคม และ 3-4 กุมภาพันธ์] 2568 ผ่าน 14 สถาบันการเงินชั้นนำ

SCAP เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 3 รุ่น ชูดอกเบี้ย [4.50 - 5.05]% ต่อปี

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 ("SCAP") กล่าวว่า SCAP เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ [2 ปี 18 วัน] ดอกเบี้ยคงที่ [4.50]% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ [3 ปี 18 วัน] ดอกเบี้ยคงที่ [4.90]% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ [4 ปี] ดอกเบี้ยคงที่ [5.05]% ต่อปี ซึ่งเสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนทั่วไป และจะจัดจำหน่ายผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 14 แห่ง ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โดยหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด จะชำระดอกเบี้ยคงที่ทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้จากการออกตราสารหนี้ และ/หรือ ใช้ในการประกอบธุรกิจและขยายกิจการผ่านการปล่อยสินเชื่อใหม่ให้แก่ลูกค้าของบริษัทรองรับการเติบโตในอนาคต

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมงวด 3 เดือน ของไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 1,899.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.64 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.21% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลจากนโยบายการพิจารณาอนุมัติการให้สินเชื่อที่เข้มงวดเพื่อควบคุมคุณภาพลูกหนี้และส่งผลต่อกำไรในระยะยาวของบริษัท โดยหากพิจารณากำไรสุทธิงวด 3 เดือน ของไตรมาส 3 ปี 2567 จำนวน 231.71 ล้านบาท จะพบว่ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 98.44 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 73.86% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารที่ลดลง และยังคงประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดี ส่งผลให้กำไรสุทธิดีขึ้น ด้านภาพรวมของรายได้สำหรับงวด 9 เดือน จำนวน 5,951 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 752.25 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.47% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 545.40 ล้านบาท โดยคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2568 จะฟื้นตัวดีขึ้น แต่ความต้องการการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมยังคงสูง ธุรกิจการให้บริการสินเชื่อจึงมีโอกาสเติบโตที่ดี นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นพัฒนาการบริการและผลิตภัณฑ์เดิมให้ตอบโจทย์ลูกค้าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง และในเชิงกว้างด้วยการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากธุรกิจหลัก และธุรกิจใหม่อื่นๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างรวม สินเชื่อใหม่ และรายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับเป้าหมายในปี 2568 นี้ บริษัทจะยังคงพิจารณาอนุมัติการให้สินเชื่อรายใหม่ที่เข้มงวดต่อเนื่องจากปี 2567 เพื่อคุณภาพลูกหนี้ที่ดี ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนความเสี่ยงของสินเชื่อลดลง โดยหากบริษัทปล่อยสินเชื่อได้เป็นไปตามเป้าหมาย จะส่งผลให้เกิด Economies of Scale และบริษัทคงความเป็นอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ป้ายแดงของประเทศ ผลักดันให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

"หลังจากเครือบริษัทศรีสวัสดิ์ได้ทำการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ โดยบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ("SAWAD") จะเน้นทำธุรกิจจำนำที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ส่วน SCAP เน้นทำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ แบบครบวงจร เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และทำให้นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งแผนในปี 68 บริษัทจะเร่งปรับบริการและผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้า และเร่งศึกษาสินเชื่อรายย่อยใหม่ๆ เพื่อสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรในธุรกิจ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อรายย่อยระดับต้นของเมืองไทย"

บริษัทมีแผนระยะยาวที่จะมุ่งเน้นในการทำกำไรอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยแบบครบวงจร และมีการกระจายตัวของสัดส่วนทางธุรกิจ ทั้งในแนวลึก และแนวกว้าง เพื่อลดการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง ช่วยกระจายความเสี่ยงและปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สนับสนุนให้เกิดการสร้างรายได้ และผลกำไรแก่บริษัทเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

กลุ่มสถาบันการเงินผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ SCAP กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นกู้ SCAP มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากการเป็นบริษัทหลักในกลุ่มศรีสวัสดิ์และมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ที่คาดว่าจะเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ [31 มกราคม และ 3-4 กุมภาพันธ์] 2568 นี้ จะมีหุ้นกู้ 3 ชุดให้เลือกตามระยะเวลาที่ต้องการลงทุน มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ที่ BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี

สำหรับนักลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ครั้งนี้ ดังนี้

ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้

  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (โดยบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน Mobile Application - CIMB Thai ได้อีก 1 ช่องทาง) โทร. 02-626-7777
  • บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02-695-5555
  • บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร.02-687-7543
  • บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-8888
  • บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02-846-8675
  • บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-351-1800
  • บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด โทร. 02-088-9100
  • บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 02-779-9000
  • บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) โทร.02-820-0100
  • บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999
  • บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2205-7000 ต่อ 7387
  • บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050
  • บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56
  • บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004

หมายเหตุ: บริษัทอยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน

คำเตือน: โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในร่างหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนตามรายละเอียดด้านล่า

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit