YLG ชี้ปีนี้ทองมาไกลแล้ว แต่ยังมีลุ้นไปต่อได้ถึง 2,850 ดอลลาร์ แนะเทรดด้วยความระมัดระวัง แบ่งขายทำกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย

31 Oct 2024

  • วายแอลจีชี้ ทองคำปีนี้มาไกลมาก แต่ยังมีลุ้นขึ้นได้อีกถึง 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หรือ 45,600 บาทต่อบาททองคำ หากมีปัจจัยหนุนที่มากพอ ทั้งเฟดลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% และเหตุปะทะในตะวันออกกลาง รวมไปถึงความผันผวนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ
  • ระยะสั้นมองเทรนด์ทองแกว่งตัวรอผลการประชุมเฟด และผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ สัปดาห์หน้าแนะเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง แบ่งขายทำกำไรที่โซน 2,800 - 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และหาจังหวะซื้อกลับที่ 2,724 - 2,708 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์
  • แนะนักลงทุนถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA แอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง
YLG ชี้ปีนี้ทองมาไกลแล้ว แต่ยังมีลุ้นไปต่อได้ถึง 2,850 ดอลลาร์ แนะเทรดด้วยความระมัดระวัง แบ่งขายทำกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าปี 2567 ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับจากต้นปี ราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในปีนี้ราคาทองคำจึงปรับตัวมาแล้วกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ดีมองว่าปีนี้แม้จะเหลือเวลาอีกประมาณ 2 เดือน ยังมองว่าทองคำมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่หากมีปัจจัยสนับสนุนที่แรงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เช่น ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบถัดไปที่ 0.25% หากผลออกมาพบว่าปรับลดลงมากกว่าที่คาดก็จะสนับสนุนให้ทองคำไปได้ถึง 2,800 - 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ รวมถึงหากมีปัจจัยความไม่สงบหรือเหตุปะทะในตะวันออกกลางบานปลาย ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทองคำปรับตัวขึ้นไปได้เช่นกัน ทั้งนี้ ในสัปดาห์จะมีการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่เพิ่มกรอบการแกว่งตัวให้ราคาผันผวนมากขึ้น ขณะที่ เป้าหมายของราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ ปีนี้อยู่ที่ประมาณ 44,800 - 45,600 บาทต่อบาททองคำ

ส่วนประเด็นเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐนั้น มองว่าภาพรวมยังคาดการณ์ได้ยาก เนื่องจากผลการเลือกตั้งยังมีความไม่แน่นนอน ซึ่งหากผลออกมาว่า ฝั่งพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้ง ภาพรวมทิศทางทองคำน่าจะดำเนินต่อไปเช่นในปัจจุบัน เนื่องจากทางพรรคน่าจะยังคงการเดินนโยบายลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่หากพรรครีพับลิกันชนะจะยังไม่สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดทองคำได้ เพราะมีโอกาสเป็นได้ทั้งการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนโยบายของพรรคจะเป็นการชูแคมเปญอเมริกาต้องมาก่อน ซึ่งจะทำให้เกิดการขึ้นภาษีประเทศคู่ค้า และนโยบายที่ทำให้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ซึ่งอาจจะทำให้เงินเฟ้อกลับมา ดังนั้นนโยบายลดดอกเบี้ยอาจจะต้องชะงักไว้ ซึ่งจะกดดันทองคำ แต่หากภาพรวมเศรษฐกิจมีความน่ากังวลทองคำก็จะกลับมาพุ่งแรงได้เช่นกัน

อย่างไรก็ดีก่อนจะถึงวันเลือกตั้งและวันประชุมของเฟด ทิศทางทองคำจะเป็นลักษณะแกว่งตัวในกรอบ นักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยมองแนวต้านที่โซน 2,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวรับที่ 2,724 - 2,708 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากราคาทองคำปีนี้ปรับตัวขึ้นมาไกลมากแล้ว หากทองคำไปถึงแนวต้านแนะนำให้แบ่งขายทำกำไร และหากราคาขยับไปถึงเป้าหมาย 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ให้ระวังแรงขายรอบใหญ่

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาวนั้นแนะนำสะสมแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน DCA (Dollar-Cost-Average) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะทำให้นักลงทุนสามารถสร้างวินัยการออม และเข้าถึงราคาทองได้หลากหลาย อีกทั้งปัจจุบันยังสามารถตั้งเวลาซื้อล่วงหน้าได้อีกด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่วายแอลจีแนะนำแอปพลิเคชัน Get Gold by YLG ที่วายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำโดยใช้เงินลงทุนเพียง 100 บาท ได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากตอบโจทย์การลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่สามารถซื้อ-ขายทองคำ Gold Spot แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เข้าถึงง่ายด้วยสมาร์ตโฟน และมีความน่าเชื่อถือ ด้านความปลอดภัย สามารถทำกำไรได้จริง โดยผู้สมัครสามารถยืนยันตัวตนพร้อมยื่นเอกสารผ่านแอปพลิเคชัน รู้ผลอนุมัติได้ภายในวันเดียว และสามารถทำการซื้อ-ขาย ทองคำได้ทันที เปิดให้ลงทุนเริ่มที่ 100 บาท ไปจนถึง 80 กิโลกรัมต่อ 1 วัน ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ App Store และ Play Store หรือ LINE : @ylggetgold โทร. 0-2678-9888 #2

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit