'บมจ. อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง' หรือ IROYAL' เร่งขับเคลื่อนการเติบโต หลังทำผลงานงวดครึ่งแรกปี 2567 กวาดรายได้ 118.19 ล้านบาท พร้อมปักธงปี 2568 โตต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น ภายหลังเข้าเทรดใน mai เดินหน้าเข้าประมูลงานรัฐ-เอกชนมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท พร้อมให้คำมั่นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีแผนขายหุ้น
นายภณภัทร เมฆาสุวรรณดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์รอแยล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ IROYAL ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมเพื่อจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะครอบคลุมงานติดตั้งและงานซ่อมบำรุง ด้วยการออกแบบ ให้คำปรึกษา และนำเสนอโซลูชั่น เปิดเผยว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯพร้อมขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน หลังทำผลการดำเนินงานในงวดครึ่งแรกปี 2567 ทำรายได้รวมกว่า 118.19 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังได้เงินจากการระดมทุน IROYAL พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงาน โดยเริ่มขยายฐานลูกค้าไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ มากขึ้น เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้มีความหลากหลายและมีโอกาสเติบโตในอนาคต เช่น โรงกลั่นน้ำมันหรือโรงงานปิโตรเคมี ที่มีระบบการเผาไหม้ (Combustion System) โรงงานปูนซีเมนต์ ที่มีระบบจัดการของเสียและไอเสีย (Flue Gas Management System) รวมถึงได้เริ่มขยายฐานลูกค้าด้วยการสรรหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน (Uninterruptible Power Supply System) โดยเน้นกลุ่มโรงแรม อาคารขนาดใหญ่ หรืออาคารโรงพยาบาล ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบสำรองไฟฟ้าและพลังงาน
บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องจักรสำหรับโรงไฟฟ้า, โครงการระบบ Tunnel Ventilation (ระบบระบายอากาศ) ในอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน สายสีม่วงใต้, โครงการ Oil and Gas Service, โครงการ Solar System ทำสัญญาแบบ PPA และ โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2568 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50% เมื่อเทียบกับ 2567 สอดรับไปกับแผนการเติบโตในระยะสั้น 1-3 ปี ของ IROYAL ที่ได้ขยายงานเข้าไปในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น โรงงานปูนซีเมนต์, Oil & Gas, โรงงานปิโตรเคมี, โรงกลั่นน้ำมัน และเทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะที่ในระยะกลาง บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับพลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงแผนร่วมทุน (M&A และ M&P) เป็นต้น เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต
"เรามุ่งมั่นขยายงาน และเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน และภายหลังการเข้าเทรด mai เราอยากให้นักลงทุนทุกท่าน มั่นใจได้เลยว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีแผนขายหุ้นแม้ผ่านระยะเวลาห้ามขายหุ้นแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ไม่มีหนี้สินกับสถาบันการเงิน ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุน จะใช้ขยายการรับงานในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นน้ำมัน โรงงานปิโตรเคมี โรงงานปูนซีเมนต์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการเพิ่มรายได้และผลกำไรให้สูงขึ้น เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอนาคต" นายภณภัทร กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit