เตรียม "สุขภาพ" ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง "ไข้เหลือง" วัคซีนจำเป็นที่นักเดินทางต้องรู้ เพื่อความปลอดภัยทุกการเดินทาง

15 Nov 2024

ใกล้วันหยุดยาวแล้ว หลายคนคงกำลังวางแผนทริปสุดสนุก เพื่อพักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาตลอดทั้งปี แต่แพทย์แนะนำว่าก่อนออกเดินทาง นักเดินทางยุคใหม่ต้องเตรียม "สุขภาพให้พร้อม" เพื่อให้การเดินทางไม่สะดุด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมสุขภาพและการฉีดวัคซีน หนึ่งในวัคซีนที่จำเป็นอย่างมากคือ วัคซีนไข้เหลือง ปัจจุบันตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ (WHO IHR) กำหนดให้นักเดินทางจำเป็นต้องได้รับวัคซีนไข้เหลืองก่อนการเดินทางไปยังประเทศที่มีไข้เหลืองระบาด ซึ่งอยู่ในประเทศแถบแอฟริกา และอเมริกาใต้ ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย 10 วันก่อนเดินทาง ไม่อย่างนั้นอาจไม่สามารถเดินทางได้

เตรียม "สุขภาพ" ให้พร้อมก่อนออกเดินทาง "ไข้เหลือง" วัคซีนจำเป็นที่นักเดินทางต้องรู้ เพื่อความปลอดภัยทุกการเดินทาง

"ไข้เหลือง" หรือ Yellow Fever โรคอันตรายที่ต้องระวัง! พญ.จิตรฟ้า หรูรุ่งโรจน์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และเวชศาสตร์การเดินทาง โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวถึง โรคนี้ว่า "ไข้เหลือง" เกิดจากเชื้อไวรัสฟลาวิไวรัส (Flavivirus) ที่พบการระบาดในเขตร้อนแถบแอฟริกาและอเมริกาใต้ โดยมียุงลายเป็นพาหะในการแพร่เชื้อ มีระยะฟักตัวของโรค 4-10 วัน เฉลี่ย 6 วัน อาการได้แก่ มีไข้ ปวดเมื่อยตัว อาเจียน ระยะต่อมามีเลือดออกผิดปกติ ตับวาย ตัวเหลืองตาเหลือง 20 % ของผู้ติดเชื้อจะมีอาการรุนแรง และ 50% ของผู้ที่มีอาการรุนแรงจะเสียชีวิต

แม้ยังไม่มีการรักษาเฉพาะสำหรับไข้เหลืองในปัจจุบัน แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนไข้เหลือง (Yellow Fever Vaccine) ซึ่งวัคซีนเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง โดยทั่วไปมีความปลอดภัยและมีผลข้างเคียงน้อย เช่น ไข้ต่ำ ๆ หรือปวดเมื่อยที่จุดฉีด อาการเหล่านี้จะหายไปภายในไม่กี่วัน แต่เนื่องจากวัคซีนเป็นวัคซีนเชื้อเป็น ดังนั้นในคนบางกลุ่มอาจเกิดผลข้างเคียงรุนแรงได้ คืออาการของโรคไข้เหลืองเสมือนการติดเชื้อไข้เหลืองจริง หรือผลข้างเคียงทางระบบประสาทที่รุนแรง เช่น ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี เด็กทารกอายุต่ำกว่า 9 เดือน ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ติดเชื้อ HIV กินยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยมะเร็ง ผู้ที่เป็นเนื้องอกต่อมไทมัส ผู้ที่ผ่าตัดต่อมไทมัส เป็นต้น รวมถึงผู้ที่มีประวัติแพ้ไข่ เนื่องจากวัคซีนมีส่วนผสมของไข่ ดังนั้นก่อนวางแผนการเดินทางไปประเทศที่มีโรคไข้เหลือง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนว่าสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่ และหากมีข้อห้ามในการฉีดวัคซีนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีโรคไข้เหลือง

สำหรับวัคซีนไข้เหลือง เป็นวัคซีนเชื้อเป็นที่ทำให้อ่อนฤทธิ์ลง ฉีดเข้าชั้นไขมันหรือชั้นกล้ามเนื้อ 1 เข็ม ฉีด 1 ครั้งครอบคลุมได้ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น ซึ่งตามกฎเดิมต้องฉีด 1 เข็มทุก 10 ปี แต่บางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ฉีดกระตุ้นหากได้รับวัคซีนมาเกิน 10 ปี เช่น เดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาดอยู่ โดยการฉีดวัคซีนไข้เหลือง เมื่อฉีดแล้วก็จะได้หนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อเป็นหลักฐานยื่นให้กับตม. หนังสือรับรองจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 10 วันหลังฉีด ซึ่งต้องฉีดในสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่ได้มีการขึ้นทะเบียนกับกรมควบคุมโรคให้มีอำนาจในการออกหนังสือรับรองเท่านั้น

คำแนะนำสำหรับผู้ที่จะมาฉีดวัคซีนไข้เหลือง

  • โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์วัคซีนเพื่อทำนัดล่วงหน้าในการจัดเตรียมวัคซีน และ คัดกรองเบื้องต้นว่ามีข้อห้ามในการฉีดวัคซีนไข้เหลืองหรือไม่
  • ต้องมาฉีดวัคซีนอย่างน้อย 10 วันก่อนวันเดินทาง และต้องเว้นระยะจากการฉีดวัคซีนเชื้อเป็นอย่างน้อย 28 วัน ก่อนมาฉีดวัคซีนไข้เหลือง
  • นำ passport หรือ สำเนา passport มาด้วย เนื่องจากต้องใช้ในการออกหนังสือรับรองการฉีดวัคซีน
  • หลังฉีดวัคซีนให้สังเกตอาการในรพ.อย่างน้อย 30 นาที

พญ.จิตรฟ้า ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนักเดินทางที่ไปยังประเทศในแอฟริกาและอเมริกาใต้ เช่น บราซิล โคลอมเบีย หรือไนจีเรีย หากไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีน อาจถูกปฏิเสธการเข้าเมืองหรือถูกกักตัว ดังนั้น การเตรียมสุขภาพให้พร้อมก่อนเดินทางจะช่วยให้คุณไม่พลาดประสบการณ์ดี ๆ และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง

โรงพยาบาลพระรามเก้าให้บริการพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพก่อนการเดินทาง โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 1270 หรือ Website: www.praram9.com / Line: lin.ee/vR9xrQs หรือ @praram9hospital และ Facebook: Praram9 Hospital โรงพยาบาลพระรามเก้า HEALTHCARE YOU CAN TRUST เรื่องสุขภาพ… ไว้ใจเรา #Praram9Hospital อย่าลืมชวนคนที่คุณรักมาร่วม "โอบกอดสุขภาพดีไปด้วยกัน" เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นในทุก ๆ วัน