DDD เปิดเผยงบรวม 9 เดือน ปี 2567 รายได้จากการขาย 1,078.10 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.10 บาท ขึ้น XD 21 พ.ย.นี้

18 Nov 2024

บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เครื่องครัว รวมไปถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE'CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, MAKAVELIC, EMJOI, @HOME และแบรนด์น้องใหม่ล่าสุด VALERA รายงานผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้

DDD เปิดเผยงบรวม 9 เดือน ปี 2567 รายได้จากการขาย 1,078.10 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.10 บาท ขึ้น XD 21 พ.ย.นี้

ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2567 มีรายได้จากการขาย 1,078.10 ล้านบาท รายได้ลดลง 69.15 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงร้อยละ 6 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก

  • รายได้จากส่วนงานธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามมีรายได้ลดลงร้อยละ 03 จากงวดก่อน เนื่องจากปัจจุบันมีคู่แข่งในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมความงามเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสินค้าแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ทที่มีการพัฒนาและสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี เหมาะสำหรับทั้งช่างทำผมมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป คาดว่าผลิตภัฑณ์ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายในไตรมาสสุดท้ายได้เป็นอย่างดี
  • ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศจากบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย (Authorized distributor) ในบางประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้รายได้จากการขาย จากเดิมรับรู้รายได้จากยอดขายจากลูกค้า (End customer) เป็นการรับรู้รายได้จากการขายให้ตัวแทนจัดจำหน่ายซึ่งเป็นราคาขายส่ง (Wholesale price)
  • นอกจากนี้ ผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในทางตอนเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศทำให้เส้นทางการขนส่งหลายเส้นทางถูกตัดขาดหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทฯ ในการกระจายสินค้าเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว
  • อย่างไรก็ดี รายได้จากธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีรายได้ 78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.82 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายในประเทศร้อยละ 38.28 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตของยอดขายในประเทศ มีการพัฒนาสูตรการผลิต และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ระหว่างปีให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการขยายตลาดกลุ่มตัวแทนจำหนาย ช่องทางออนไลน์ และร้านค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade) เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น

ในขณะที่ต้นทุนขายรวมงวด 9 เดือน ปี 2567 มีมูลค่า 465.02 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.13 ของรายได้จากการขาย สัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.65 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากต้นทุนขายสินค้าในต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาวะการแข่งขันในตลาด และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับการขายสินค้ารายการพิเศษ (Big lot) ให้กับคู่ค้ารายหลักในต่างประเทศ

สำหรับค่าใช้จ่ายในการขายงวด 9 เดือน ปี 2567 มีมูลค่า 353.88 ล้านบาท ลดลงในอัตราร้อยละ 13.44 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการขายของบริษัท และได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างต่อเนื่อง

โดยที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารงวด 9 เดือน ปี 2567 มีมูลค่า 268.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.61 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากค่าใช่จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการปิดบริษัทร่วมทุนในประเทศฟิลิปปินส์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจ และ Unrealized loss จากอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายคลังสินค้าและสำนักงานลดลงอย่างต่อเนื่องตามแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัท

จากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น ทำให้บริษัทมีผลกำไรสุทธิ (Net Profit) สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 มูลค่า 3.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 112 หรือ 29.25 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีผลประกอบการขาดทุน 26.18 ล้านบาท

ในวันเดียวกันนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือนปี 2567 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 6 ธันวาคม 2567

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ว่า บริษัทยังคงมุ่นเน้นสร้างการเติบโตของยอดขายและกำไรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ รวมถึงแผนการจับมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มความสามารถในการพัฒนาธุรกิจ และสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจให้เติบโตเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมความงามและไลฟสไตล์อย่างต่อเนื่อง